ผู้สิ่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลทันที ว่า หลายคนพูดเก่งผมยอมรับ แต่อย่ามากล่าวหาว่าผมใช้กฎหมายกับผู้เห็นต่าง กฎหมายอยู่เฉยๆ ผมก็นั่งเฉยๆ ใครทำผิดต้องถูกลงโทษ ผมสั่งเขาไม่ได้หรือถ้าสั่งได้คงไม่เป็นแบบนี้ แต่ผมไม่ได้สั่ง ระวังตัวบ้างก็แล้วกัน กฎหมายมีผลบังคับใช้กับทุกคน แม้กระทั่งผมก็ยอมรับกฎหมาย วันก่อนเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย กลับไปย้อนดู ความต้องการของประชาชนไม่มีวันสิ้นสุด ผมเข้าใจ แต่อย่าลืมว่าความต้องการของท่านมีอะไรได้รับการตอบสนองไปแล้วบ้าง พูดอย่างเดียวไม่ได้ ท่านต้องหาวิธี ไม่ใช่ใช้การท้าทาย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทำให้ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วงฯว่า ที่นายกฯบอกว่าให้ระวังตัวนั้นจะต้องระวังตัวเรื่องอะไรบ้าง เพราะดิฉันจะได้ตรียมตัว ทำให้นายกฯ ลุกขึ้นตอบโต้ทันควันว่า จะพูดอย่างไม่เข้าใจแบบนี้ไม่ได้ ที่ตนบอกให้ระวังตัวคือระวังตัวในเรื่องของข้อกฎหมายที่อาจจะทำผิดได้ ตนก็ระวังของตน ท่านก็ต้องระวังของท่าน ความหมายของตนคือแค่นี้ ไม่ได้ไปขู่อะไรท่าน เข้าใจไหม ถ้าท่านไม่ได้ทำผิดอะไรจะกลัวอะไร เมื่อนายกฯพูดจบก็เดินออกไปจากที่นั่งทันที
นางอมรัตน์ สวนว่า หากมีคนข้างบ้านมาพูดกับดิฉันว่าให้ระวังตัวเอาไว้ ดิฉันก็ตีคามได้ว่าเป็นการข่มขู่ ทำให้นายศุกภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เบรคว่า มันจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ทำให้นางอมรัตน์ สวนกลับว่า “อ๋อดิฉันเข้าใจผิดใช่มั๊ยค่ะ งั้นท่านนายกฯก็ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน” นายศุภชัย ตอบโต้ว่า “อ๋องั้นก็แปลว่าต่างฝ่ายต่างบอกให้ระวังตัวก็ถือว่าจบแล้วนะ”
ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงประธานที่ประชุมว่า ขอให้ประธานควบคุมการประชุมให้เป็นไปได้ด้วยดี นายกฯ พูดพาดพิงและหันมาทางพวกตนหลายครั้ง พวกตนก็คนธรรมดา โดนขู่มากๆ ก็ตกใจ ขอให้ประธานควบคุมการพูดของนายกฯด้วย ทำให้นายศุภชัย ชี้แจงว่า ตนฟังอยู่ นายกฯพูดถึงให้ระมัดระวัง ใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย ตนไม่ได้ปกป้องนายกฯ แต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดซึ่งกันแล้วกัน
ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ลุกขึ้นเตือนสมาชิกว่า วันนี้อภิปรายเป็นวันที่ 3 แล้ว อะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่อยากให้ผิดใจกัน ขณะนี้เวลาในส่วนของครม.และพรรคร่วมรัฐบาลเหลืออีก 1 ชั่วโมง 50 นาที หักที่นายกฯได้อภิปรายไปแล้วด้วย ขณะที่ฝ่ายค้านเหลือเวลา 1 ชั่วโมง 17 นาที ยังไม่ได้หักที่มีการประท้วง
ทำให้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ของประธานที่ประชุม ที่ปล่อยให้นายกฯจิ้มไมค์แล้วพูดเลย เราจะประชุมกันแบบนี้หรือ ต่อไปนี้ใครก็ตาม อยากพูดอะไรก็กดไมค์แล้วพูดเลยแบบนี้ โดยที่ประธานไม่ตำหนิกติกาแบบใดพวกเราต้องเคารพ แต่อยู่ๆนายกฯกลับกดจิ้มไมค์แล้วพูดถือว่าไม่เคารพกติกา ไม่เคารพข้อบังคับสภา ทั้งที่ประธานมีหน้าที่จัดการประชุมให้เกิดความเรียบร้อย ควรเรียกนายกฯมาตำหนิว่าทำแบบนั้นไม่ได้ นี่คือหน้าที่ของประธาน
นายศุภชัย จึงชี้แจงว่า ความจริงตนติงนายกฯไปแล้ว ถ้าตั้งใจฟังตอนที่นายกฯพูดสวนขึ้นมา ตนก็ติงไปแล้ว แต่ตอนนั้นนางอมรัตน์ ยังอภิปรายต่อ ตนจึงปล่อยให้เขาอภิปราย ซึ่งความเป็นจริงตนพยายามยึดหยุ่นกับทุกฝ่าย ขอบคุณนายรังสิมันต์ และตนจะทำหน้าที่ให้เข้มแข็งกว่านี้ และถ้าตนเข้มแข็งก็อย่าโวยวาย จากนั้นเข้าสู่การอภิปรายต่อไป