ภารกิจของคณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะและวัฒนธรรม ในคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ที่มีนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ นอกจากทำงานเชิงรุกเพื่อพัฒนาสังคมในทุกมิติด้วยพันธกิจหลักหกด้าน อันได้แก่ (1) การขับเคลื่อนกฎหมายเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและวัฒนธรรมร่วมสมัย (2) การนำทุนทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นและเมือง (3) การส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสถาบันภูมิภาษาและปัญญาแห่งชาติ (4) การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย (5) การส่งเสริมและอนุรักษ์วิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ และ (6) การแก้ไขปัญหาด้านศิลปะและวัฒนธรรม โบราณสถาน โบราณวัตถุ และติดตามประเมินผลการดำเนินงาน รวมทั้งรับเรื่องร้องเรียน ตลอดจนออกหนังสือเชิญผู้แทนสถาบัน หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ให้ข้อมูลหรือชี้แจงในที่ประชุมซึ่งได้ดำเนินการเป็นประจำสม่ำเสมออยู่แล้วนั้น ยังมีภารกิจสำคัญอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เพิ่มเข้ามาเป็นวาระเร่งด่วนอีกด้วย ดังนั้น คณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะและวัฒนธรรมฯ จึงได้วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มการดำเนินงาน ว่าควรปรับปรุงรูปแบบภายใต้เงื่อนไขอันจำกัด โดยระดมความคิดความเห็นเพื่อจัดทำแผนดำเนินงานด้านศิลปะและวัฒนธรรมในสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งประธานคณะอนุกรรมาธิการได้แบ่งผลแห่งวิกฤติเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรก-เผชิญภัย ช่วงสอง-ผ่อนเพลา และช่วงสาม-ผ่านพ้น เป็นที่ทราบกันดีว่าวิกฤติครั้งนี้เกิดขึ้นทั่วโลก เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนไม่สามารถตั้งรับได้ทัน ก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาล ทั้งชีวิต เศรษฐกิจ ภาวะจิตใจ การดำรงชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมจนปรับตัวไม่ทัน ถึงกระนั้นต้องอยู่กับมันให้ได้ ช่วยกันประคับประคองกันไป ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการได้ตระหนักในสิ่งนี้ ดังนั้นการปรับตัวให้เข้าสู่ชีวิตปกติวิถีใหม่ (NEW NORMAL) จึงเป็นสิ่งจำเป็น อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงในปัจจุบันเริ่มมีการขยับปรับตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้ก้าวทันโลกสมัยใหม่อยู่แล้ว จากการศึกษาข้อมูลพบว่าภายในปี 2573 ความต้องการทำงานจากที่บ้านจะเพิ่มขึ้น 30% เนื่องจากกลุ่มคน Gen Z กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างเต็มตัว และ 64% ของคนทำงานในปัจจุบันกล่าวว่า พวกเขาสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ (โดย 71% ขององค์กรทั่วโลกมีนโยบายการทำงานจากที่บ้านเป็นเรื่องปกติ) แต่การเกิดขึ้นของโควิด-19 กลับกลายเป็น "ตัวเร่ง" ให้การทำงานแบบ Remote Working ซึ่งหนึ่งใน subset นี้คือ “Work From Home” ที่ได้สร้างพฤติกรรมการทำงานผ่านดิจิทัลเต็มรูปแบบ นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ด้านหนึ่งสามารถเห็นการเพิ่มขึ้นของความร่วมมือ หลายฝ่ายแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งใจเดียวกัน การสื่อสารเชื่อมโยงระหว่างรุ่น-คนต่างวัย ระหว่างชุมชน ไปจนถึงระหว่างวัฒนธรรมผ่านแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ เพื่อหาทางออกที่เป็นประโยชน์สูงสุดร่วมกันในด้านต่างๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางออกของปัญหาที่คณะอนุกรรมาธิการเห็นว่าควรเร่งดำเนินการ คือ (1) เชิญผู้ได้รับผลกระทบในมิติศิลปะและวัฒนธรรมเข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนทัศนะ (2) จดทะเบียนศิลปินและผู้ได้รับผลกระทบในมิติศิลปะและวัฒนธรรม (3) จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นนำเสนอมาตรการฟื้นฟูเยียวยาสำหรับได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ อีกทั้งเพิ่มพื้นที่การสื่อสารข้อเสนอเชิงนโยบายด้านศิลปวัฒนธรรมทั้งในระดับยุทธศาสตร์ ปฏิบัติการ และสร้างการมีส่วนร่วม รวมทั้งนำเสนอกรณีศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในระดับภูมิภาคและระดับโลก สร้างการมีส่วนร่วมกับเครือข่าย กลุ่มเป้าหมาย และประชาชนทั่วไป ผ่านนโยบาย ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะด้านศิลปวัฒนธรรมเพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ในเบื้องต้นคณะอนุกรรมาธิการมีแนวคิดจะจัดสัมมนาหรือจัดในรูปแบบเวิร์กช็อป โดยเชิญบุคคลผู้เกี่ยวข้องและกลุ่มองค์กรต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบเพื่อระดมความคิด และรับฟังความเห็นโดยรอบด้าน เพื่อรวบรวมจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้นต่อไป ซึ่งการจัดสัมมนาโดยคณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะและวัฒนธรรมฯ เป็นเจ้าภาพจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้