กรมการศาสนาชวนพุทธศาสนิกชนร่วมกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2563
วันอาสาฬหบูชาปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม วันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 (ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองหน/อธิกมาส จะกำหนดเป็นวันเพ็ญเดือน 8 หลังแทน) เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา ทรงแสดงธรรมครั้งแรก (ปฐมเทศนา) “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” เป็นวันที่พระอริยสงฆ์สาวก (พระภิกษุสงฆ์) องค์แรกเกิดขึ้น คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นวันที่พระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ คือ พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ
ถัดจากวันอาสาฬหบูชา 1 วัน เป็นวันเข้าพรรษา คือ วันที่พระภิกษุอธิษฐานจิตอยู่จำพรรษา ไม่จาริกไปยังสถานที่ต่างๆ เว้นแต่มีกิจกรรมจำเป็นจริงๆ ช่วงจำพรรษาจะอยู่ในช่วงฤดูฝน คือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ดังนั้น วันเข้าพรรษาหมายถึง วันที่พระภิกษุในพระพุทธศาสนาอธิษฐานอยู่ประจำในวัดหรือเสนาสนะที่คุ้มแดดคุ้มฝนได้แห่งหนึ่ง ไม่ได้ไปค้างแรมในที่อื่นตลอด 3 เดือนในฤดูฝน ซึ่งในช่วงนี้พระภิกษุจะได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนพระพุทธพจน์ ศึกษาพระธรรมวินัยและประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่กับพระเถระที่เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ได้อย่างเต็มที่ ส่วนพุทธศาสนิกชนจะได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญกุศลได้อย่างเต็มที่ เช่น ทำบุญตักบาตร รักษาศีล สวดมนต์ ฟังธรรม เจริญภาวนาตลอดพรรษา และวันเข้าพรรษายังก่อให้เกิดประเพณีสำคัญ 2 ประเพณี คือ ประเพณีการถวายผ้าอาบน้ำฝน และประเพณีแห่เทียนพรรษา
จากวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งมีบทบาทต่อสังคมไทย พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ ภาคคณะสงฆ์ ภาคราชการ ภาคเอกชน องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาจึงร่วมกันจัดกิจกรรมงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาต่อเนื่องกันมาทุกปี
นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า ศน.ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ดำเนินกิจกรรมตามข้อปฏิบัติคำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และคำแนะนำเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณีต่างๆ พิธีทางศาสนาในสถานการณ์โรคโควิด-19 ของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ตามแบบชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal
ส่วนกลางร่วมกับคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์หล่อเทียนพรรษา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่อาคารวธ. โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานพิธี และวันที่ 3 ก.ค. มีพิธีปล่อยขบวนรถแห่เทียนพรรษานำไปถวายพระอาราม 10 วัด ได้แก่ วัดปทุมวนาราม วัดพรหมวงศาราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก วัดเทพลีลา วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดชัยพฤกษมาลา วัดเสมียนนารี วัดปากน้ำ และวัดสามพระยา
ส่วนภูมิภาคได้ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด เช่น พิธีหล่อเทียน แห่เทียนพรรษา ถวายเทียนพรรษา ทำบุญตักบาตร การแสดงพระธรรมเทศนา พิธีเวียนเทียน ปฏิบัติธรรม ประดับธงชาติและธงธรรมจักร จัดนิทรรศการวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ให้ความรู้เรื่องวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และรณรงค์ให้พุทธศาสนิกชนรักษาศีล ลด ละ เลิก อบายมุข ตลอดช่วงเข้าพรรษา
ดังนั้น เมื่อวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาดังกล่าวเวียนมาบรรจบ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทุกภาคส่วนของสังคมไทยจะได้ร่วมมือร่วมใจส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ปลุกจิตสำนึกคนในชาติให้ยึดมั่นและเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ให้ประชาชนมีความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะมากขึ้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา นับเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนไปประพฤติปฏิบัติ สร้างคุณความดี ได้เข้าใกล้พระพุทธศาสนา
นอกจากได้ร่วมสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนถาวรตลอดไปแล้ว ยังเป็นการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมไทยมีส่วนร่วมโดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ เพื่อประโยชน์แก่ตนเองสังคมและประเทศชาติโดยรวม