ผู้ปกครองพาบุตรหลานแห่ซื้อชุดนักเรียนรับเปิดเทอมคึกคัก เน้นซื้อที่จำเป็น พร้อมยังห่วงกลัวลูกติดโควิดในโรงเรียน ย้ำต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอด
ที่ร้านคุงคิ้วพานิชจำหน่ายชุดนักเรียนในเขตเทศบาลตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส บรรดาผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานไปเลือกซื้อชุดนักเรียนเตรียมตัวรับเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2563 กันอย่างคึกคักซึ่งมีนักเรียนทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาล ชั้นประถม และมัธยมศึกษา ส่วนใหญ่จะซื้อชุดนักเรียน รองเท้า และปักชื่อพร้อมด้วย
เจ้าของร้าน บอกว่า หลังจากที่ผ่านมาช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ซบเซามาก แทบจะขายของไม่ได้ แต่นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เริ่มขายดีขึ้น ประกอบกับมาตรการปลดล็อก ระยะที่ 4 และยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว ทำให้เริ่มกลับมาขายของได้ดีขึ้นอีกทั้งพบว่าเงินช่วยเหลือของรัฐบาลที่จัดสรรให้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ปกครองในปีนี้ได้เร็วกว่าทุกปี อาจจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายซื้อสินค้า ชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามพบว่าปีนี้พฤติการณ์การซื้อชุดนักเรียนของผู้ปกครองเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยซื้อปริมาณมาก ๆ แต่ลดลง เช่น ซื้อให้ลูก 1 คน เดิมจะซื้อ 2 ชุดกลายเป็นซื้อเพียง 1 ชุด และซื้อขนาดใหญ่กว่าตัวเผื่ออนาคตเด็กโตมากขึ้น
ด้านนายอิสมะแอ สาและ ผู้ปกครองรายหนึ่ง บอกว่า พาลูกชายมาซื้อชุดนักเรียนชั้น ม.1 ปีนี้ต้องประหยัดในการซื้อชุดนักเรียนให้ลูก โดยจะเลือกซื้อสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อโรงเรียนจะเปิดเทอมก็เป็นห่วงว่าจะมีการติดเชื้อโควิด-19 กันในโรงเรียน ซึ่งได้ย้ำให้ลูกป้องกันตัวเองอยู่เสมอใส่หน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือและเว้นระยะห่าง ตามมาตรการป้องกันที่แพทย์แนะนำ เพราะไม่สามารถดูแลลูกได้ตลอดเวลาเหมือนอยู่ที่บ้าน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สำรวจร้านขายชุดนักเรียนในเขตเทศบาลตำบลปะลุรู ประมาณ 2 ร้าน พบว่ามีผู้ปกครองพาบุตรหลานออกมาเลือกซื้อชุดนักเรียนกันเป็นจำนวนมาก หลังรัฐบาลประกาศวันเปิดเทอม 1 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะซื้อเครื่องแบบนักเรียนเฉลี่ยคนละ 1-2 ชุด หรือบางคนได้นำชุดเก่ามาใช้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งราคาจำหน่ายเครืองแบบนักเรียนแบ่งขาย โดยราคาขายชุดนักเรียนอยู่ที่ชุดละ 400 บาทขึ้นไป แล้วแต่ขนาด หากแบ่งขายเสื้อขายตัวละ 220-230 บาท กางเกงตัวละ 300 บาท กระโปรงตัวละ 300 บาท และรองเท้านักเรียน คู่ละ 220 - 400 บาท
ที่ร้านคุงคิ้วพานิชจำหน่ายชุดนักเรียนในเขตเทศบาลตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส บรรดาผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานไปเลือกซื้อชุดนักเรียนเตรียมตัวรับเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2563 กันอย่างคึกคักซึ่งมีนักเรียนทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาล ชั้นประถม และมัธยมศึกษา ส่วนใหญ่จะซื้อชุดนักเรียน รองเท้า และปักชื่อพร้อมด้วย
เจ้าของร้าน บอกว่า หลังจากที่ผ่านมาช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ซบเซามาก แทบจะขายของไม่ได้ แต่นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เริ่มขายดีขึ้น ประกอบกับมาตรการปลดล็อก ระยะที่ 4 และยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว ทำให้เริ่มกลับมาขายของได้ดีขึ้นอีกทั้งพบว่าเงินช่วยเหลือของรัฐบาลที่จัดสรรให้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ปกครองในปีนี้ได้เร็วกว่าทุกปี อาจจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายซื้อสินค้า ชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามพบว่าปีนี้พฤติการณ์การซื้อชุดนักเรียนของผู้ปกครองเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยซื้อปริมาณมาก ๆ แต่ลดลง เช่น ซื้อให้ลูก 1 คน เดิมจะซื้อ 2 ชุดกลายเป็นซื้อเพียง 1 ชุด และซื้อขนาดใหญ่กว่าตัวเผื่ออนาคตเด็กโตมากขึ้น
ด้านนายอิสมะแอ สาและ ผู้ปกครองรายหนึ่ง บอกว่า พาลูกชายมาซื้อชุดนักเรียนชั้น ม.1 ปีนี้ต้องประหยัดในการซื้อชุดนักเรียนให้ลูก โดยจะเลือกซื้อสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อโรงเรียนจะเปิดเทอมก็เป็นห่วงว่าจะมีการติดเชื้อโควิด-19 กันในโรงเรียน ซึ่งได้ย้ำให้ลูกป้องกันตัวเองอยู่เสมอใส่หน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือและเว้นระยะห่าง ตามมาตรการป้องกันที่แพทย์แนะนำ เพราะไม่สามารถดูแลลูกได้ตลอดเวลาเหมือนอยู่ที่บ้าน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สำรวจร้านขายชุดนักเรียนในเขตเทศบาลตำบลปะลุรู ประมาณ 2 ร้าน พบว่ามีผู้ปกครองพาบุตรหลานออกมาเลือกซื้อชุดนักเรียนกันเป็นจำนวนมาก หลังรัฐบาลประกาศวันเปิดเทอม 1 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะซื้อเครื่องแบบนักเรียนเฉลี่ยคนละ 1-2 ชุด หรือบางคนได้นำชุดเก่ามาใช้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งราคาจำหน่ายเครืองแบบนักเรียนแบ่งขาย โดยราคาขายชุดนักเรียนอยู่ที่ชุดละ 400 บาทขึ้นไป แล้วแต่ขนาด หากแบ่งขายเสื้อขายตัวละ 220-230 บาท กางเกงตัวละ 300 บาท กระโปรงตัวละ 300 บาท และรองเท้านักเรียน คู่ละ 220 - 400 บาท