เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ทำนุ หาญปี รอง สว.(สอบสวน) สภ.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่กระท่อมนา บ้านหนองปิง ต.โคกม่วง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและแจ้งแพทย์เวร รพ.โนนสัง ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพนายไพรินทร์ พูลพุฒ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 บ้านหนองปิง ต.โคกม่วง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู นอนหงายไม่สวมเสื้ออยู่บนกระท่อมนา มีมุ้งปกอยู่ที่ขา ที่บริเวณใบหน้า พบบาดแผลถูกมีดฟันลายแผล และบริเวณลำตัว หัวไหล่ ในที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธที่ใช้ทำร้าย จากการสอบถามนางดอกจันทร์ พูลพุฒ ภรรยาผู้ตาย ทราบว่าผู้ตายได้ออกมานอนที่กระท่อมนา เพื่อนอนเฝ้ารถไถ และพืชผักเป็นประจำทุกคืน เมื่อคืนที่ผ่านมานางดอกจันทร์ พูลพุฒ ภรรยา ได้มาอยู่กับผู้ตาย จนดึก จึงได้กลางมุ้งปูที่นอนให้สามีผู้ตายเรียบร้อยก่อนแยกกับผู้ตายมานอนบ้านในเวลาประมาณ 22.00 น. ต่อมาเช้าวันที่ 27 มิ.ย.63 เวลา 07.00 น.นางดอกจันทร์ ฯ ได้นำอาหารไปส่งสามีผู้ตาย เมื่อมาถึงกระท่อมนา พบผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ และมีบาดแผลถูกฟัน เลือดสาดเต็มพื้นและฝากระท่อมนา ด้วยความตกใจจึงได้วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน ร้องเรียกคนมาช่วย และได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้น ร.ต.อ.ทำนุ หาญปี ร้อยเวรสอบสวนจึงได้มาร่วมกับแพทย์ รพ.โนนสัง ชันสูตรพลิกศพ และมอบศพให้ญาติไปจัดการตามประเพณี ต่อมาพ.ต.อ.กริช ปัตลา รอง ผบก.ฯ พร้อมชุดสืบสวน และพ.ต.ต.ตฤณวัฒน์ โพธิ์บาย สว.สภ.โนนเมือง พร้อมชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเอ ( นามสมุมติ)อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นบุตรเขยของนายไพรินทร์ ฯ ผู้ตาย โดยให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้โกรธแค้นที่ผู้ตายชอบดุด่า และให้ตนเองเลิกกับภรรยา ที่แต่งงานกันแล้วได้ 5 เดือน และขณะนี้ภรรยาท้องได้ 4 เดือน ตนพยายามมาหาภรรยาแต่ผู้ตายก็ไม่ยอม เลยคิดว่าถ้านายไพรินทร์ ฯ พ่อตาไม่ตายตนคงไม่มีโอกาสได้อยู่กับภรรยา ในคืนเกิดเหตุจึงได้นำมีดตัดอ้อยยาวประมาณ 1 ฟุตครึ่ง เตรียมไปจากบ้านโดยได้ขับรถจักรยานยนต์ไปที่กระท่อมนา นายไพรินทร์ฯ ผู้ตาย โดยได้จอดห่างกระท่อมนาประมาณ 50 เมตร จากนั้นจึงได้แอบเดินเข้าไปที่กระท่อมนา พบนายไพรินทร์ฯนอนอยู่ในมุ้ง นายเอ จึงได้ใช้มีดกระหน่ำฟันผู้ตายไปทีใบหน้าและลำตัว ผู้ตายรู้สึกตัวพยายามจะลุกขึ้น นายเอ ก็ฟันไปอีกโดยไม่ยั้ง จนใบหน้าเละและผู้ตายล้มลงแน่นิ่งไป เมื่อแน่ใจว่าตายแล้ว จึงได้นำมีดมาขับรถจักรยานยนต์หลบหนี และนำมีดที่ใช้เกิดเหตุทิ้งไปในป่าอ้อย แล้วหลบหนีไปนอนที่บ้าน ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านและสอบถามเรื่องการตายของนายไพรินทร์ฯ นายเอ ทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว จึงเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายไพรินทร์ฯจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวมาค้นหาอาวุธมีด ที่ทิ้งไว้ป่าอ้อย ต่อมาในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวมาทำแผนที่เกิดเหตุประกอบคำสารภาพ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป