นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวถึงการกลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) ประกาศคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ให้กลุ่มกิจการและกิจกรรมธุรกิจศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าเปิดบริการได้ แต่ยังเข้มงวดในมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค เนื่องจากเป็นกิจการและกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของประชาชนจำนวนมาก โดยให้ความสำคัญเรื่องการบริการจัดการรักษาระยะห่างและการควบคุมความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในพื้นที่ ควบคู่ไปกับมาตรการดูแลสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยของทุกคน พร้อมกับมีคู่มือสร้างความเข้าใจร่วมกับลูกค้าผู้จัดงานถึงแนวทางดำเนินการให้บริการในวิถีใหม่ โดยทุกคู่มือได้วางข้อปฏิบัติที่เหมาะสมกับกิจกรรมและพื้นที่ของการจัดงาน ซึ่งอ้างอิงข้อมูลคำแนะนำจากทางหน่วยงานด้านสาธารณสุข ระเบียบข้อกำหนดของทางราชการ รวมถึงหน่วยงานผู้กำกับดูแล เช่น สมาคมการแสดงสินค้าไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ ทั้งนี้ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค มีพื้นที่จัดแสดงงานมากกว่า 140,000 ตารางเมตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่สามารถจัดสรรพื้นที่จัดงานให้เหมาะสม เพื่อรองรับงานขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ตามมาตรฐาน New normal โดยได้นำนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัย ด้วยนวัตกรรมเครื่องฉายแสงยูวีฆ่าเชื้อแบบเคลื่อนที่ Germ Saber UVC Sterilizer ผลงานวิจัยร่วมของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในพื้นที่ต่างๆ ของศูนย์ฯ เลือกใช้นวัตกรรมปุ่มกดลิฟต์ไร้สัมผัส อีกหนึ่งผลงานของ สวทช. ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัย ลดการเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค นอกจากนวัตกรรมดูแลสุขภาพอนามัยแล้ว อิมแพ็ค ยังลงทุนระบบจัดการประชุม Hybrid meeting หรือ visual seminar ซึ่งเป็นระบบที่ตอบรับนโยบายรัฐในการจำกัดความหนาแน่นของการจัดประชุม-สัมมนา อ้างอิงพื้นที่ 4 ตารางเมตรต่อท่าน ทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมประชุมลดลง แต่ด้วยระบบไฮบริดสามารถรองรับผู้มาร่วมประชุมในห้องจริง และเปิดลงทะเบียนให้ผู้สนใจร่วมประชุมทางออนไลน์ได้เพิ่มตามจำนวนที่ต้องการ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสองส่วนสามารถสื่อสารระหว่างกันและมีส่วนร่วมในการประชุมได้เสมือนอยู่ในห้องเดียวกัน เครื่องฉายแสงยูวีฆ่าเชื้อแบบเคลื่อนที่ ซึ่งระบบดังกล่าวสามารถลงทะเบียนผู้ร่วมประชุมได้ตั้งแต่ 100-3,000 ท่าน โดยข้อดีของระบบดังกล่าว นอกจากการเตรียมระบบ รวมถึงกล้องและอุปกรณ์รองรับการจัดประชุมแล้ว ยังมีทีมเจ้าหน้าที่เทคนิคให้การดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนจบงาน เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าจัดการประชุมสัมมนา แตกต่างจากหลายแห่งที่ลูกค้าจะต้องติดต่อนำระบบเข้ามาเอง ซึ่งล่าสุดทางอิมแพ็ค ได้เชิญลูกค้าผู้จัดงานทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาเยี่ยมชมและทดสอบใช้ระบบดังกล่าวและได้รับความสนใจและตอบรับจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลเบื้องต้นเดือนกรกฎาคม 2563 มีลูกค้าจองพื้นที่จัดงานแล้วมากกว่า 20 งาน แบ่งเป็น กลุ่มงานประชุมสัมมนา จำนวน 11 งาน เช่น การประชุมของหน่วยงานราชการ การประชุมผู้ถือหุ้นบางกอกแลนด์ กลุ่มงานแสดงสินค้า จำนวน 7 งาน ทั้งของหน่วยงานราชการและเอกชน ซึ่งงานไฮไลต์มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก เช่น งานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภค Midyear Sale งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับบ้าน HomePro Expo งานแสดงสินค้าเพื่อแม่และเด็ก BBB Baby and Kids Best Buy งานแสดงสินค้ายานยนต์ Bangkok Motor Show กลุ่มงานสอบจำนวน 2 งาน เป็นการสอบคัดเลือกบุคคลรับราชการ และกลุ่มงานพิเศษ จำนวน 5-6 งาน เช่น กิจกรรมอินเซ็นทีฟ กิจกรรมจัดเลี้ยงปาร์ตี้ เป็นต้น อีกทั้งยังมีงานใหญ่ ที่ทุกคนรอคอย คือ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 ครั้งที่ 41 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15-26 กรกฎาคม 2563 บนพื้นที่รวมกว่า 170,000 ตารางเมตร ถือเป็นงานใหญ่งานแรกสำหรับวงการยานยนต์ของโลกที่จัดขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19