"มัลลิกา" เผย "จุรินทร์ " มุ่งทำงานประกันรายได้เกษตรกรสำเร็จ ดันส่งออกเป็นผล "ไม่ดราม่า" เดินหน้าร่วมรัฐบาล-สร้างรายได้ให้ประชาชน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่มีผู้ตั้งคำถามทางการเมืองว่าเกือบ 1 ปีในการร่วมรัฐบาลนั้นประชาชนได้อะไรจากพรรคประชาธิปัตย์ อยากขออนุญาตเรียนชี้แจงให้ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์โดยการนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สร้างปรากฏการณ์ ที่แตกต่างด้วยการลงมือทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องหลังจากได้เข้าร่วมรัฐบาลด้วยเงื่อนไขนโยบายประกันรายได้เกษตรกรซึ่งเป็น1ใน3เงื่อนไขและแถลงต่อรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 วันนี้นโยบายประสบความสำเร็จถูกใจประชาชนเป็นอันดับต้นของนโยบายรัฐบาล จากการสำรวจของโพลหลายสำนักมาแล้ว เพราะสามารถช่วยเกษตรกรได้ทั้งหมด 7.29 ล้านราย แยกเป็นการช่วยเหลือชาวนาได้ 4.31 ล้านราย ปาล์มน้ำมัน 3 แสนราย ยางพารา 1.7 1 ล้านราย มันสำปะหลัง 5.2 แสนราย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.5 แสนราย รวมงบประมาณ 1 ปี 6.8 หมื่นล้านบาท "โดยทุกบาททุกสตางค์ตกถึงมือเกษตรกรไม่หายหกตกหล่นแม้แต่บาทเดียวและเข้ากระเป๋าเกษตรกรโดยผ่านธนาคาร ธกส.ของเกษตรกรเอง และเม็ดเงินนี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศชาติเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานรากขึ้นไปอีกด้วย โดยรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรในเฟสต่อไปทั้ง ข้าว ปาล์ม ยางพารา มันสำปะหลัง และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ขณะเดียวกันก็มีมาตรการเสริมคู่ขนานไปด้วย อีกทั้งยังใช้มาตรการอื่นๆดูแลพืชเกษตรชนิดอื่นรวมทั้งผลไม้อย่างเป็นระบบ นอกจากนายจุรินทร์และรัฐบาลจะได้รับคำชื่นชมจากตัวแทนเกษตรกร สมาคมชาวนา ภาคเอกชนและภาคประชาชนแล้วยังได้รับความชื่นชมจากผลสำรวจหลายสำนักโพลอีกด้วย" นางมัลลิกา กล่าว ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ได้เร่งรัดผลักดันการส่งออกจนสร้างเซลล์แมนประเทศไทยไปเจรจาการค้าจนทำข้อตกลงขยายตลาดต่างประเทศมูลค่ากว่า 9.4 หมื่นล้านบาท ปรับรูปแบบการทำงานส่งเสริมการค้าออนไลน์ก่อนจะเกิดวิกฤติโควิด-19 จนสามารถสร้างสมาชิกบนเว็บไซต์ Thaitrade.com ได้กว่า 2 แสนรายมีสินค้ากว่า 2.6 แสนรายการ และทลายอุปสรรคด้านการค้าชายแดนทำให้ค้าขายสดวกมูลค่าการค้ารวมกว่า 9.1 แสนล้านบาท โดยด่านชายแดนจุดใดที่เป็นอุปสรรคการส่งออกสินค้าของไทยก็เร่งรัดเจรจาให้จบทุกด้านไป จัดการเรื่องสินค้าและบริการโดยลดราคาสินค้าเพื่อช่วยค่าครองชีพประชาชนทุกระยะโดยเฉพาะโครงการพาณิชย์ลดปังข้ามปีและพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชนทุกโครงการ นโยบายควบคุมราคายาและค่ารักษาค่าบริการโรงพยาบาลเอกชนให้คนไข้ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนั้นยังช่วยจัดการผลกระทบจากการนำเข้าเศษกระดาษด้วยการแก้ปัญหาอุตสากรรมกระดาษทุกวงจรสร้างอาชีพให้ประชาชนฐานรากที่สุดของสังคมคือชาวซาเล้งได้รับความเป็นธรรมด้านราคาเศษกระดาษกว่า 1.5 ล้านครัวเรือน และยังเป็นยุคที่นายจุรินทร์มาเป็นประธาน RCEP ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศสมาชิก 16 ประเทศ นำการเจรจาการค้าจนประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทำให้ขบวนของ 16 ประเทศสมาชิกเดินหน้าได้เพื่อสร้างมูลค่าทางการค้าร่วมกันโดยมีประชากร 48% ของประชากรโลกเป็นฐานลูกค้าสำคัญ นอกจากนั้นในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหาร เช่น นำกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร แก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรลูกหนี้กองทุนฯคืน ไม่ให้ถูกยึดที่ดินทำกินและซื้อหนี้แทนเกษตรกรเพื่อคืนโฉนดที่ทำกิน ด้านผู้สูงอายุได้ให้พักชำระหนี้จากกองทุนผู้สูงอายุ 4.1 หมื่นรายเป็นเวลา1ปี ด้านผู้พิการได้จัดเพิ่มเบี้ยเป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ให้เงินอุดหนุนผู้พิการ 1000 บาททุกคนและอนุมัติให้กู้ไม่เกิน 1 หมื่นโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นต้น นางมัลลิกา กล่าวว่า นายจุรินทร์ สร้างปรากฏการณ์การทำงานขยันโดยไม่มีวันหยุดจนได้รับคำชมจากราชการกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและกรรมการคณะชุดต่างๆว่าเป็นคนทำงานแบบเหนื่อยสายตัวแทบขาด ทำให้คนทำงานภูมิใจที่มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการที่ใส่ใจปัญหาของประชาชนอย่างเข้าถึงที่สุดเช่นนี้ โดยที่ผ่านมานายจุรินทร์ ใช้ศักยภาพ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ทางการเมืองในการเป็นรัฐมนตรีมาหลายสมัยทำงานโดยที่ไม่พูดมาก ทั้งนี้เพื่อให้เจตนารมณ์และอุดมการณ์ในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเกิดผลเป็นผู้กระทำมากที่สุดใช้เวลาเร็วที่สุด ซึ่งวันนี้นายจุรินทร์ก็ได้รับการขนานนามอย่างกว้างขวางว่าเป็นคนทำงานแบบ "ทำได้ไว ทำได้จริง" "ก้มหน้าก้มตาทำงาน" ดังนั้นการนำพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ทำงานให้ประชาชนอย่างจริงจังตั้งใจนั้นจึงเกิดผลดีต่อสังคมประเทศชาติและประชาชนอย่างยิ่ง