"บิ๊กตู่"ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้สมปชช.ไว้ใจ วอนอย่าเอาการเมืองมาพันกันทั้งหมด ขอร้องอย่าสร้างความขัดแย้ง-ละเมิดสถาบัน-ละเมิดกฎหมาย ยันไม่ต้องการลงโทษใครเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน "บิ๊กป้อม"แย้มรอประกาศนั่งหน.พรรคพปชร. 27 มิ.ย.นี้ แจงเหตุรับตำแหน่งหวังหย่าศึกภายในพรรค "พลังท้องถิ่นไท"ยันเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เคยต่อรองเก้าอี้รมต. ด้าน"พรรคเล็ก"ดอดเข้าทำเนียบฯ ยันไม่ต่อรองเก้าอี้รมต. เผย"บิ๊กตู่"แย้มให้รอปรับ ครม.ค่อยมาคุยกัน ขณะที่"โฆษกตร."แถลงตรวจยึดอาวุธสงครามเพียบพื้นที่แนวตะเข็บชายแดน เผยการข่าวระบุเตรียมใช้เคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ยืนยันวันนี้รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุดให้สมกับที่ประชาชนไว้วางใจมาตลอดปีนี้ทั้งปีแล้ว เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยที่ทุกคนว่ากัน และมาจาก ส.ส มีรัฐมนตรีที่มาจาก ส.ส. และรัฐมนตรีที่เหมาะสม ซึ่งนายกฯจำเป็นต้องมีในส่วนตรงนี้ วันนี้เป็นการพูดคุยกันในเรื่องของการเมืองไปตนไม่อยากให้เอาการเมืองมาพันกันทั้งหมด เพราะหากบ้านเมืองเสียหายแล้วใครรับผิดชอบ และใครจะแก้ไว้หากต่างประเทศเชื่อไปด้วยยิ่งไปกันใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันเรื่องธุรกิจการค้าและการลงทุนก็มีปัญหาอยู่ ดังนั้นเรื่องอะไรที่พูดจากันได้ไกลเกลี่ยกันได้ เป็นเรื่องของกฎหมายและกระบวนการตรวจสอบที่ต้องว่ากันไปจนกว่าจะได้ข้อยุติ แต่วันนี้ส่วนใหญ่นำเรื่องเหล่านี้มาเป็นประเด็นในการให้การรับรู้ในเวทีของสื่อและเวทีที่มีพิธีกรทำให้ขัดแย้งกันไม่จบ เจ้าหน้าที่ก็ทำงานลำบาก ซึ่งต้องทำงานด้วยตัวบทกฎหมาย จึงฝากไว้ด้วยถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันรวมไทยสร้างชาติ รวมสื่อสร้างชาติด้วยขอร้องก็แล้วกัน "วันนี้ขอร้องอย่าสร้างความขัดแย้งในเรื่องที่ไม่ควร อย่าให้มีการละเมิดสถาบัน และละเมิดกฎหมาย เพราะกฎหมายทำให้สังคมสงบสุข ถ้าไม่ไปยุ่งกับเขามันก็ไม่มีใครถูกลงโทษ รัฐบาลไม่ต้องการลงโทษใครโดยเฉพาะผมเอง ถ้าไม่ผิดกฎหมายผมจะไปหาเรื่องทำไม ก็ประชาชนคนไทยด้วยกัน แต่ถ้าเขาหาเรื่องกับกฎหมายก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเหมือนกัน บางอย่างนิยายเหมือนกันบางที เขียนกันจนเป็นนิยายบางคนก็เป็นนิสัยของเขา เป็นพิธีกรบางทีก็พูดเลยเถิดไปเรื่อยมันก็เลยไม่จบเสียที หลายเรื่องควรจะจบก็ไม่จบ เรื่องอะไรก็ตามที่เคยเกิดขึ้นก่อนผมเข้ามา มันก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก ถ้าไม่เกิดขึ้นบ้านเมืองก็จะไปของมันเรื่อยๆ กลไกหลักของเรามีอยู่แล้วคือประชาชน ไม่ใช่พรรค แต่เป็นความร่วมมือแบบประชารัฐ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนและประชาสังคมกลุ่มต่างๆ เคลื่อนไหวไปด้วยกันในเชิงสร้างสรรค์ อะไรที่ไม่ดีก็บอกมาเราก็จะแก้ไขให้ เพราะรัฐบาลหรือหน่วยราชการความมั่นคงและทุกหน่วย ทั้งตำรวจ ทหาร มีกฎหมายทุกตัว และมีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็น" นายกฯ กล่าว ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคประชารัฐ (พปชร.) กล่าวก่อนประชุม ครม. ถึงการตอบรับเป็นหัวหน้าพรรค พปชร. ว่า ยังไม่ได้ประกาศอะไรเลย เมื่อถามต่อว่า ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่สามัญ พปชร.ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่ แล้วแต่สมาชิกพรรค เมื่อถามถึงกรณีที่มีภาพแกนนำของพรรคจับมือกัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทำให้มีความกลมเกลียวกันไม่ได้หรือ ก็ดีแล้ว เมื่อถามว่า วันนี้พร้อมที่จะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า "ผมบอกแล้วหรือยัง ก็ยังไม่ถึงเวลา" เมื่อถามกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าพล.อ.ประวิตรต้องรับตำแหน่งเพราะมีความจำเป็น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า บางทีก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เราก็ต้องไปดู ต่อข้อถามว่า จะเป็นหัวหน้าพปชร.จนถึงเลือกตั้งครั้งหน้า หรือเป็นแค่ 6 เดือนตามข่าว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ข่าวที่ไหน ไปถามคนปล่อยข่าว" เมื่อถามว่า หมายความจะเป็นหัวหน้าพปชร. ยาวเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่รู้ ผมยังไม่รู้เรื่องเลย" ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบรับเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ตนก็ทราบข่าวผ่านสื่อพอๆ กับพวกเราทุกคน ขอแสดงความยินดีถ้าเป็นจริง เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้วจะทำให้การประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลราบรื่นขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่เคยแสดงปัญหาอะไรในตอนที่ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้ก็ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี อย่าไปมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องทำงานกับพรรคแกนหลักเท่านั้น เพราะพรรคภูมิใจไทยของตนก็ทำงานร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนา ของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราก็ร่วมมืออะไรกันมากมาย อย่างเรื่องดีๆ ก็ไม่พูดกัน เช่น การขออีไอเอเพื่อสร้างสถานพยาบาลที่เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแบะสิ่งแวดล้อมที่เป็นการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ส่วน ศ.โกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึงกรณีที่ 7พรรคเล็ก มีมติสนับสนุน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นรัฐมนตรีว่า ส่วนตัวคิดว่าทุกพรรคอยากเป็นรัฐบาล อยู่ที่เป็นแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ตนคิดว่าไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็กก็ต้องสร้างอำนาจต่อรอง เมื่อพรรคอื่นเสนอได้ก็เสนอบ้างไม่ได้หรือ ก็สามารถเสนอได้แต่อยู่ที่หัวหน้ารัฐบาลจะมีวิธีการจัดสรรปันส่วนระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ตนคิดว่าข้อเสนอทุกวันนี้เป็นการสร้างกระแส และมโนกันทั้งนั้น ว่าคนนั้นจะได้เป็นรัฐมนตรี ส่วน 7 พรรคเล็ก ก็สนับสนุนนายมงคลกิตติ์ได้ แต่จะได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ศ.โกวิทย์ กล่าวว่า สำหรับพรรคพลังท้องถิ่นไทเราคงไม่สนับสนุนนายมงคลกิตติ์ เพราะเรามีตั้ง 5 เสียง ก็สนับสนุนพรรคเราเอง และมีคนสนับสนุนพรรคเราคือ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย อีก 2 เสียง ก็เป็น 7 เสียงแล้ว แล้วเราจะไปสนับสนุนพรรคอื่นทำไม ซึ่งโฆษกพรรคก็พูดชัดเจนว่าเราจะไปหนุนพรรคอื่นทำไม แต่ตนคิดว่าเราคงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเล็กเลย เพราะเราไม่มีส่วนกับพรรคเล็กเลย เรามีเสียงพอที่จะพิจารณาได้ ซึ่งการเมืองไม่ได้มีสูตรสำเร็จว่าต้องกี่คน กี่คน แต่อยู่ที่เขาจะจัดสรรให้เราหรือเปล่า การเมืองเป็นเรื่องที่แต่ละคนก็มีความหวังและมโนไป จะมีปัญหาตอนที่ผิดหวัง ดังนั้นตนคิดว่าพรรคพลังท้องถิ่นไทคิดถูกต้องแล้วที่หัวหน้าพรรคบอกว่าเราไม่เรียกร้องอะไร เราก็อยู่อย่างสุภาพบุรุษมาตั้งแต่ต้น ในทางการเมืองเราจะไปโฆษณา หรือประกาศก็ไม่ได้ ตนไม่เห็นด้วยกับการสร้างกระแส และพยายามให้ข่าวสื่อ เพราะเป็นการสร้างกระแสแบบมโนมากกว่า ปล่อยให้สื่อหาข่าวเองว่าน่าจะดีกว่า เพราะนักการเมืองปั่นกระแสให้เป็นข่าว การเมืองแบบนี้ไม่ใช่ข้อยุติจริงหรือไม่จริง "พรรคพลังท้องถิ่นไทก็เป็นพันธมิตรทางการเมืองกับพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ส่วนจะเป็นพันธมิตรแท้หรือไม่ต้องใช้เวลาเป็นบทพิสูจน์ ส่วนจะเสนอใครเป็นรัฐมนตรียังไม่รู้ ส่วนมากผมไม่ค่อยให้ความเห็นเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่ได้จะเป็นการเสียหน้ามากกว่า ในทางการเมืองเขารู้กันว่าใครเป็นใคร ยกตัวอย่างพรรคชาติพัฒนาของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค ไม่เคยมีข่าว ไม่เคยพูดอะไร พอประกาศก็ได้ตำแหน่ง แต่พรรคที่บอกว่ายื่นเสนออย่างนั้น อย่างนี้ ก็อาจจะไม่ได้ก็ได้ ผมคิดว่าการสร้างข่าว ไม่ได้ ถ้าไม่สร้างข่าว ได้ ในความเห็นผมนะ ในทางการเมือง สร้างข่าวให้เป็นข่าวจะไม่ได้ อยู่เฉยๆจะได้ในทางการเมืองจะเป็นอย่างนั้น" ศ.โกวิทย์ กล่าว วันเดียวกัน นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ อดีตหัวหน้าพรรคพลเมืองไทย พร้อมด้วย นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่, นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เดินลงจากตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเดินขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าในมือคณะที่มาด้วยกันได้ถือซองเอกสารสีน้ำตาล ระบุหน้าซองถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า เดินทางมาทำเนียบรัฐบาลเพื่อพบใคร นายสุรทินพูดหยอกล้อว่า มาพบนายกฯขอโควตารัฐมนตรี พร้อมหัวเราะและขอว่าอย่าไปลงแบบนี้ โดย นพ.ระวี กล่าวว่า จะมาบอกนายกฯว่าวันนี้กลุ่ม 11 พรรคเล็ก ไม่มีต่อรองรัฐมนตรีอย่างแน่นอน อันนั้นเป็นเรื่องของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เพียงคนเดียว ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ถาม นายพิเชฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย หรือยัง นพ.ระวี และนายสุรทิน ได้แต่เพียงหัวเราะ จากนั้น นายสัมพันธ์ กล่าวภายหลังเข้าพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ประมาณ 20 นาที ว่า พวกเราเป็นตัวแทนพรรคเล็ก มาพบเพื่อให้กำลังใจนายกฯ พร้อมกับยืนยันว่าพวกเราพรรคเล็กไม่ติดใจเรื่องของตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะหากต้องการต่อรองเรื่องตำแหน่งก็คงพูดไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ครั้งนี้เราก็ไม่เรียกร้องอะไร เพราะต้องการให้นายกฯ สบายใจ และมีสมาธิทำงาน ทั้งนี้ นายกฯ ได้กล่าวกับพวกเรา ว่า หากจะมีการปรับใหญ่จริงๆ เมื่อไหร่ค่อยมาพูดคุยกัน ซึ่งเราก็รอนายกฯ จะพิจารณาให้โอกาสพวกเรา เพราะนักการเมืองก็อยากก้าวหน้าทั้งนั้น ส่วนที่มีพรรคเล็กบางพรรคจะเสนอชื่อใครไปเป็นรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ขึ้นอยู่กับนายกฯ จะพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละบุคคล พวกเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดอาวุธสงครามจำนวนหนึ่งจากพื้นที่แนวตะเข็บชายแดน โดยการข่าวว่าเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อหาต้นต่อที่เกี่ยวข้อง หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป