วันที่ 22 มิ.ย.63 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง จ.ตรัง พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วยพ.ต.อ.สันทัด วินสน พ.ต.อ.อาคม บัวทอง รองผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.ย่านตาข่าว พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สภ.นาโยง พ.ต.อ.อิศราพงศ์ จินา ผกก.สภ.บ้านคลองเต็ง และนางพรทิพา อัครสุต อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองตรัง เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครตรัง เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สภ.เมืองตรัง ปล่อยแถวระดมกวาดล้างและป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทาง
สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญของการแก้ไขปัญหาเด็กแว้นหลังการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว และได้สั่งการให้ดำเนินการกับร้านซ่อมรถที่มีพฤติการณ์แต่งรถซิ่ง และร้านหรือโรงงานที่มีการลักลอบจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างเด็ดขาด จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันอย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการก่อนเกิดเหตุ มาตรการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามแนวทาง ที่ตำรวจกำหนดอย่างเคร่งครัด ให้เกิดผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานจราจร ของ ในสังกัด ภ.จว.ตรัง ดำเนินการกวดขันจับกุมการแข่งรถในทางในห้วงเวลาวันที่ 1-20 มิถุนายน 2563 โดยมีผลการจับกุม 330 คดี เปลี่ยนแปลงสภาพรถ 150 คัน อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ 102 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 78 คัน ในจำนวน 330 คดีได้เปรียบเทียบปรับไป 256 คดีและรอการดำเนินการอีก 74 คดี และได้เรียกผู้ปกครองมารับทราบการทำทัณฑ์บน จำนวน 89 ราย
ด้าน พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า หลักจากระดกวาดล้างครั้งที่ผ่านมาก็ได้ระดมตั้งจุดตรวจจุดสกัดเต็มพื้นที่ ทุกอำเภอ สามารถดำเนินการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนเป็นจำนวนมาก และตรวจยึดของกลางเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้หลังจากประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว เชื่อว่ากลุ่มวัยรุ่นต่างๆ ใช้โอกาสนี้ดำเนินการด้วยความคึกคะนอง การแข่งรถในทางก็ดี ใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องก็ดี เราก็ดำเนินการระดมกวาดล้างในห้วงวันที่ 20 -30 มิถุนายนนี้ 4 แนวทางหลัก ที่ทาง ตำรวจแห่งชาติกำหนด คือ ก่อนเกิดเหตุจะมีการสืบสวนหาข่าวว่ากลุ่มไหน แก๊งไหน มีอยู่บ้าง หรือ จากข้อมูลข่าวสารการร้องทุกข์ร้องเรียน ทั้งทาง 191 ก็ดี ศูนย์ดำรงธรรมก็ดี หรือแม้กระทั่งในสื่อโซเชียล แม้กระทั่งพี่น้องประชาชนได้พบเห็นถ้ามีอุปกรณ์ที่บันทึกภาพได้ สามารถส่งมาให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการได้ และความผิดเหล่านี้เรามีรางวัลนำจับ สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสให้ด้วยอีกเช่นเดียวกัน
"เพราะฉะนั้นใครที่มาแจ้งหากประสงค์ของรับรางวัลนำจับ เราก็ยินดีจะทำเรื่องของรางวัลให้ ส่วนในขณะเกิดเหตุเตรียมให้เจ้าหน้าที่ถ่ายบันทึกภาพทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวเอาไว้ แต่ก็ยากเช่นกัน หลังจากแจ้งแล้วก็หนีหายพ้นไป ส่วนในมาตรการสืบสวนและขยายผลอันนี้เราสามารถทำได้อย่างอุปกรณ์พวกนี้เราก็จะต้องไปหาว่าร้านไหนที่เป็นผู้จำหน่ายเราก็จะดำเนินการร่วมกับทางพาณิชย์ อุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งมันมีความผิดอยู่ จำหน่ายสิ่งของที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม และมาตรการสุดท้ายคือ เฝ้าระวังดูการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วนใหญ่ก็จะมองในเรื่องเด็กและเยาวชน ถ้ามีเด็กและเยาวชนกระทำความผิดจะเชิญผู้ปกครองมารับรู้รับทราบหรือทำทัณฑ์บนเอาไว้ แต่ถ้ากระทำความผิดซ้ำเป็นเด็กคนเดิม ผู้ปกครองก็ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน สามารถดำเนินคดีกับผู้ปกครองได้ด้วย อันนี้ก็เป็นแนวทางที่จะต้องดำเนินการในเชิงรุกต่อไป และอย่างฝากไปถึงผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานให้ดีด้วย"พล.ต.ต.ถาวร กล่าว
อย่างไรก็ตามหากใครพบเห็นมีการแข่งรถในทาง ขับรถในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และร้านซ่อมรถที่มีพฤติการณ์แต่งรถซิ่ง และร้านหรือโรงงานที่มีการลักลอบจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม สามารถแจ้งเบาะแส สายตรงเด็กแว้น สภ.เมืองตรัง โทร. 075-211311 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานจราจร ของ ในสังกัด ภ.จว.ตรัง ดำเนินการกวดขันจับกุมการแข่งรถในทางในห้วงเวลาวันที่ 1-20 มิถุนายน 2563 โดยมีผลการจับกุม 330 คดี เปลี่ยนแปลงสภาพรถ 150 คัน อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ 102 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 78 คัน ในจำนวน 330 คดีได้เปรียบเทียบปรับไป 256 คดีและรอการดำเนินการอีก 74 คดี และได้เรียกผู้ปกครองมารับทราบการทำทัณฑ์บน จำนวน 89 ราย
ด้าน พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า หลักจากระดกวาดล้างครั้งที่ผ่านมาก็ได้ระดมตั้งจุดตรวจจุดสกัดเต็มพื้นที่ ทุกอำเภอ สามารถดำเนินการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนเป็นจำนวนมาก และตรวจยึดของกลางเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้หลังจากประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว เชื่อว่ากลุ่มวัยรุ่นต่างๆ ใช้โอกาสนี้ดำเนินการด้วยความคึกคะนอง การแข่งรถในทางก็ดี ใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องก็ดี เราก็ดำเนินการระดมกวาดล้างในห้วงวันที่ 20 -30 มิถุนายนนี้ 4 แนวทางหลัก ที่ทาง ตำรวจแห่งชาติกำหนด คือ ก่อนเกิดเหตุจะมีการสืบสวนหาข่าวว่ากลุ่มไหน แก๊งไหน มีอยู่บ้าง หรือ จากข้อมูลข่าวสารการร้องทุกข์ร้องเรียน ทั้งทาง 191 ก็ดี ศูนย์ดำรงธรรมก็ดี หรือแม้กระทั่งในสื่อโซเชียล แม้กระทั่งพี่น้องประชาชนได้พบเห็นถ้ามีอุปกรณ์ที่บันทึกภาพได้ สามารถส่งมาให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการได้ และความผิดเหล่านี้เรามีรางวัลนำจับ สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสให้ด้วยอีกเช่นเดียวกัน
"เพราะฉะนั้นใครที่มาแจ้งหากประสงค์ของรับรางวัลนำจับ เราก็ยินดีจะทำเรื่องของรางวัลให้ ส่วนในขณะเกิดเหตุเตรียมให้เจ้าหน้าที่ถ่ายบันทึกภาพทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวเอาไว้ แต่ก็ยากเช่นกัน หลังจากแจ้งแล้วก็หนีหายพ้นไป ส่วนในมาตรการสืบสวนและขยายผลอันนี้เราสามารถทำได้อย่างอุปกรณ์พวกนี้เราก็จะต้องไปหาว่าร้านไหนที่เป็นผู้จำหน่ายเราก็จะดำเนินการร่วมกับทางพาณิชย์ อุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งมันมีความผิดอยู่ จำหน่ายสิ่งของที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม และมาตรการสุดท้ายคือ เฝ้าระวังดูการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วนใหญ่ก็จะมองในเรื่องเด็กและเยาวชน ถ้ามีเด็กและเยาวชนกระทำความผิดจะเชิญผู้ปกครองมารับรู้รับทราบหรือทำทัณฑ์บนเอาไว้ แต่ถ้ากระทำความผิดซ้ำเป็นเด็กคนเดิม ผู้ปกครองก็ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน สามารถดำเนินคดีกับผู้ปกครองได้ด้วย อันนี้ก็เป็นแนวทางที่จะต้องดำเนินการในเชิงรุกต่อไป และอย่างฝากไปถึงผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานให้ดีด้วย"พล.ต.ต.ถาวร กล่าว
อย่างไรก็ตามหากใครพบเห็นมีการแข่งรถในทาง ขับรถในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และร้านซ่อมรถที่มีพฤติการณ์แต่งรถซิ่ง และร้านหรือโรงงานที่มีการลักลอบจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม สามารถแจ้งเบาะแส สายตรงเด็กแว้น สภ.เมืองตรัง โทร. 075-211311 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง