ปชช.ในเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ เดือดร้อน แห่นำถังและภาชนะบรรทุกใส่รถยนต์ และจยย. เข้าคิวรอเติมน้ำที่โรงผลิตประปาวันละกว่า 50 ราย เพื่อนำไปใช้ในครัวเรือน บางคนต้องขนวันละ 4 เที่ยว หลังแหล่งน้ำดิบแห้งขอด ต้องดึงน้ำจากห้วยสวายผลิตประปา แต่ไม่เพียงพอความต้องการ ต้องลดแรงดันและจ่ายน้ำเป็นโซน (21 มิ.ย.63) ประชาชนจากหลายหมู่บ้าน ตำบล ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์ เดือดร้อนหนัก ต่างพากันนำถัง และภาชนะที่มีอยู่ในครัวเรือนบรรทุกใส่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาเข้าคิวรอเติมน้ำฟรี ที่สถานีผลิตน้ำประปา ห้วยจระเข้มาก เพื่อนำไปใช้ในครัวเรือนทั้งอาบ ซักผ้า ประกอบอาหาร เฉลี่ยวันละกว่า 50 ราย เนื่องจากอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และห้วยตลาด แหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงตัวเมืองบุรีรัมย์ แห้งขอด จนไม่สามารถสูบขึ้นมาผลิตประปาได้ ทางชลประทานและการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบุรีรัมย์ ต้องทำการวางท่อสูบส่งน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย อ.กระสัง ระยะเวลา 19 กิโลเมตรเศษ มาผลิตน้ำประปาแทน แต่ก็ไม่เพียงพอต่อปริมาณการใช้น้ำของประชาชนและเขตเศรษฐกิจในตัวเมือง เพราะสูบส่งน้ำมาได้เพียงวันละ 20,000 ลูกบาศก์เมตร จากปริมาณการใช้น้ำวันละประมาณ 42,000 ลูกบาศก์เมตร ทางการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบุรีรัมย์ จึงต้องลดแรงดันและจ่ายน้ำเป็นโซน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2563 เป็นต้นมา เพื่อยืดระยะเวลาการใช้น้ำให้ได้นานขึ้น ส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนลง และบางพื้นที่น้ำไม่ไหลติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ประชาชนจึงจำเป็นต้องนำภาชนะมาขนนำที่สถานีผลิตน้ำประปา เพื่อให้มีน้ำใช้ในครัวเรือน บางคนไม่มีถังขนาดใหญ่ก็นำภาชนะที่มีมาขนน้ำวันละหลายเที่ยว นางสุดใจ นาจรูญ อายุ 46 ปี ชาวบ้านบ้านสวนครัว ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า ประสบปัญหาน้ำประปาไหลอ่อน และบางวันน้ำไม่ไหลมาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ถึงแม้จะมีถังสำรองที่บ้านแต่แรงดันน้ำก็ขึ้นไม่ถึง จึงจำเป็นต้องลงทุนซื้อถังขนาด 1,000 ลิตร เพื่อมารองน้ำที่สถานีสูบน้ำไปใช้ในครัวเรือน ถังหนึ่งก็จะใช้ได้เพียง 1 วัน เพราะใช้หลายคนทั้งอาบ ซักผ้า ล้างจาน ประกอบอาหาร หากน้ำไม่ไหลก็จำเป็นจะต้องมาขนน้ำทุกวัน ซึ่งก็เข้าใจในสถานการณ์ว่าเกิดจากปัญหาภัยแล้ง แหล่งน้ำดิบแห้งขอด แต่ก็อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ เพราะมารอขนน้ำไปใช้แบบนี้ทุกวันก็ลำบาก เพราะต้องมารอคิวเป็นชั่วโมง