การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ทำให้ทางรัฐบาลจะต้องสั่งปิดกิจการบ้างกิจการเป็นการชั่วคราว ซึ่งรวมถึงแหล่งเรียนรู้เช่นพิพิธภัณฑ์ปิดดำเนินการชั่วคราวไปเป็นเวลา 2 เดือน พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ทั้ง 4 แห่ง ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติมีเนื้อที่ 180 ไร่ เป็นสถานที่ที่เปิดโลกวิทยาศาสตร์ของเด็กๆที่รวมความรู้และเทคโนโลยีด้านต่างๆมาไว้ในที่เดียวทั้งเรื่องของหลักวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติวิทยา นิเวศวิทยา เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมและโครงการพระราชดำริต่างๆเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของอาเซียนประกอบไปด้วยห้องนิทรรศการและกิจกรรมแบบอินเทอร์แอคทีฟ (interactive)ที่ผู้เข้าชมนั้นสามารถเรียนรู้สัมผัสและหาคำตอบได้ด้วยตนเอง เดือนมิถุนายนนี้ พร้อมเปิดให้เข้าชม พิพิธภัณฑ์แบบ New Normal เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ของเด็กๆนั้นไม่ถูกปิดกั้นและมีรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆทั้งในรูปแบบออนไลน์ (online)และ ออนแอร์ (onair) ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวถึงรายละเอียดว่า “สำหรับเดือนมิถุนายนนี้เรากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ครบทั้ง 4 พิพิธภัณฑ์ ในช่วงแรกนี้อาจจะได้รับความไม่สะดวกบ้างแต่ก็อยากที่จะให้เข้าใจว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือเพื่อความปลอดภัยของพวกเราทั้งหมดในมาตรการที่จะสนองกับนโยบายของรัฐบาลนะครับ พิพิธภัณฑ์ ทั้ง 4 แห่งประกอบไปด้วย พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์หรือตึกลูกเต๋า พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาและพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงพิพิธภัณฑ์น้องใหม่นะครับ พิพิธภัณฑ์พระราม 9 โดยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ตึกลูกเต๋า เปิดมาครบ 20 ปี ในเดือนมิถุนายนนี้ ไฮไลท์ของที่นี่อยู่ที่ชั้น 2 เด็กๆจะได้พบกับ Lucy ลูซี่ บรรพบุรุษของมนุษย์ นะครับเราเองก็มีการ์ตูนเรื่องลูซี่ ที่เด็กๆชอบมากเด็กๆสามารถรับชมการ์ตูนลูซี่ได้จาก Facebook แฟนเพจของเรา นอกจากนั้นเราจะมีนิทรรศการที่เราปรับปรุงขึ้นมาใหม่ชื่อว่าอุโมงค์พลังงาน เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานต่างๆรอบตัวเรามีพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฟฟ้า พลังงานจากถ่านหิน พลังงานใต้พิภพ และในส่วนภาพยนตร์ 4 มิติ นอกนี้ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้เพราะยังโรงภาพยนตร์ยังเป็นสถานที่เสียงของการแพร่กระจายของเชื้อโควิด -19 ชุดนิทรรศการของเล่นภูมิปัญญาไทยเป็นส่วนนิทรรศการชุดใหม่ ที่เราได้ไปจัดแสดงในต่างประเทศมาแล้ว พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาซึ่งเรามีนิทรรศการเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานรอบชื่อว่า เล่าขานเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานในทุ่งรังสิต นอกจากนั้นทางพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศก็ยังมีเรื่องของ Lego Education มาทำหุ่นยนต์ บังคับหุ่นยนต์ควบคุมหุ่นยนต์ พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ก็จะมีกิจกรรมค้นหาขุมทรัพย์ของโลก พิพิธภัณฑ์พระราม 9 ก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับนิเวศวิทยา เรียนรู้เกี่ยวกับโลกเกี่ยวกับบ้านของเราก็คือโลกใบนี้ และโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 โครงการพระราชดำริต่างๆนั้นใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ได้เรียนรู้ทั้งเรื่องของวิทยาศาสตร์นวัตกรรมเทคโนโลยีรวมถึงปรัชญาการใช้ชีวิต” “พิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 แห่งในเดือนมิถุนายนจะเปิดเฉพาะในวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้นและในเดือนกรกฎาคมจึงจะเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบโดยยังคงจำกัดจำนวนผู้เข้าชมตามขนาดพื้นที่ของแต่ละพิพิธภัณฑ์ได้แก่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นตึกลูกเต๋ามีเปิดรองรับได้ 200 คนต่อรอบ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาซึ่งจัดแสดงนิทรรศการความหลากหลายทางธรรมชาติอันน่าพิศวงของพืชและสัตว์รองรับได้ 30 คนต่อรอบ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งเป็นการเรียนรู้โลกแห่งการเรียนรู้วิธีคิดกระบวนการสื่อสารและคอมพิวเตอร์ซึ่งเกี่ยวกับโลกของขนาดทดลองรับ 180 คนต่อรอบส่วนพิพิธภัณฑ์พระรามเก้าพิพิธภัณฑ์ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่ล่าสุดมีเนื้อที่กว้างขวางสามารถรองรับผู้เข้าชมได้ถึง 500 คนต่อรอบโดยอพวช. จะให้สิทธิ์กับผู้ที่ได้ทำการจองล่วงหน้ามาก่อนหากในแต่ละรอบนั้นมีผู้เข้าชมยังไม่เต็มจึงจะสามารถรองรับผู้เข้าชมแบบ walk in ผู้สนใจจะมาเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของเรากรุณาลงทะเบียนจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ http:www.nsm.or.thเพื่อที่จะได้รับความสะดวกสบายในการเข้าชม นอกจากนั้นทางพิพิธภัณฑ์ยังมีมาตรการความปลอดภัยต่างๆ เช่น ผู้เข้าชมต้องใส่หน้ากากอนามัย ทางพิพิธภัณฑ์มีบริการเจลล้างมือ กำหนดเรื่องของการเว้นระยะห่างในการเข้าชม เป็นมาตรฐานของการให้บริการอยู่แล้วที่สำคัญเราก็ใช้ app ของไทยชนะ ในหนึ่งวันเปิดให้บริการ 2 รอบรอบเช้าและรอบบ่ายรอบเช้านี้ตั้งแต่ 09:30 น.จนถึง 12:30 น.รอบบ่ายก็ 12:30 น.จนถึง 17:00 น.สำหรับผู้ปกครองที่อยู่ไกลหรือบางคนที่ยังกังวลเรื่องสถานการณ์ covid-19 ทาง อพวช.จัดให้มีกิจกรรมที่เรียกว่า Science Delivery By NSM ประกอบไปด้วย การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ออนไลน์จัดเต็มในรูปแบบต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ครอบครัวและเยาวชนที่ช่วงนี้ใช้เวลาอยู่บ้าน สามารถหาความสนุกสนานอย่างสร้างสรรค์ด้วยการนำองค์ความรู้มาส่งตรงถึงบ้าน พร้อมมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกัน ผ่าน Live activity กิจกรรม Museum Tour เป็นหนึ่งในชุดกิจกรรมของ Science Delivery ที่จะส่งมอบเรื่องของความรู้ความสนุกสนานให้กับผู้ชมถึงบ้าน Museum Tour เป็นกิจกรรมชมนิทรรศการแบบ 360 องศาพี่น้องประชาชนคนไทยสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแม้ว่าพิพิธภัณฑ์ เป็นจำนวนมากในเวลาที่ไม่ได้เปิดให้บริการแต่ก็ยังสนใจเรียนติดตามในเรื่องราวของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยู่ผ่านทางรูปแบบออนไลน์เป็นเรื่องที่ดีในเพจ Facebook ของพิพิธภัณฑ์เราก็หากิจกรรมที่น้องๆสามารถที่จะหาอุปกรณ์ง่ายๆรอบๆตัวนะครับไม่กลัวบ้างในห้องนั่งเล่นบ้างหรือว่ารอบๆตัวที่เขาหาได้ง่ายๆนะครับมาประดิษฐ์ของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กันนะครับจากสิ่งรอบตัวก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากเชิญชวนนะครับคุณพ่อคุณแม่แล้วก็น้องๆนะครับพี่เคยมาหาเรานะครับแล้วก็ไม่ได้มาในช่วงปิดเทอมเนี่ยนะครับเราทางที่ อพวช.นะครับทุกๆคนก็พร้อมที่จะให้บริการนะครับแล้วเราตื่นเต้นอยากที่จะเจอกับน้องๆอีกสักครั้งหนึ่ง เราพร้อมที่จะกับมอบสิ่งดีๆ ความรู้ความสนุกสนาน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆยินดีต้อนรับน้องๆทุกๆท่านนะครับกลับสู่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อีกครั้งหนึ่งครับ” การแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 นอกจากทำให้กิจกรรมบางอย่างเป็นการชั่วคราวแล้ว ภาคธุรกิจก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการประสานการดำเนินโครงการต่างๆเกี่ยวกับการสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ การสร้างความรักความสามัคคีปรองดองของคนในชาติและการสร้างความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ จ.อ่างทอง เพื่อประชุมและปรึกษากับผู้ว่าราชการจังหวัดถึงแนวทางในการคัดเลือกชุมชน จาการประชุมหารือได้ข้อสรุปว่า จังหวัดอ่างทองเป็น 1 ใน 10 จังหวัดที่ครัวเรือนมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน(จปฐ.)กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จัดงบประมาณสนับสนุน พร้อมโครงการต่างๆสู่พื้นที่ จ.อ่างทอง เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น สนับสนุนส่งเสริมอาชีพให้ประชาชน ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน หลังการประชุม พลโท พิชัย เข็มทอง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและคณะทำงานก็ได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ของชุมชนต่างๆและพูดคุยสอบถามถึงปัญหาและความต้องการของชุมชน โดยมี สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน.เป็นผู้ประสานความร่วมมือในครั้งนี้ นางสาวอรพิน พุดซ้อน ครูกศน. ต.จำปาหล่อ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองกล่าวถึงความร่วมมือและโครงการว่า “ขั้นตอนแรกคือรวมกลุ่มประชาชนที่มีความสนใจที่จะทำอาชีพเสริมรายได้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุในพื้นที่ ที่ไม่ได้ออกไปทำงาน หรือว่างงานมาฝึกการทำพรมเช็ดเท้าและเปลยวน ใช้เวลาฝึกเพียง 2 วัน ก็สามารถทำเองได้ โดยจะกลับไปทำที่บ้านหลังการได้รับอุปกรณ์การผลิตที่เรามอบให้ สำหรับการจำหน่ายนั้นอาจฝากลูกหลานไปจำหน่ายและจำหน่ายที่บ้านของผู้ผลิตเอง กศน.ลงพื้นที่และได้เปิดสอนให้ความรู้และฝึกอบรมอาชีพ ส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชน ขอเชิญทุกท่านมาเยี่ยมชมผลงานของคุณตา คุณยาย ที่ผลิตเปลและพรมเช็คเท้า จำหน่ายมีรายได้ สร้างความภูมิใจให้กับผู้สูงอายุ และเป็นความภาคภูมิใจของหน่วยงานที่สามารถช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ อยากให้ กอ.รมน.เข้ามาสนับสนุนในพื้นที่อีกคะ” นอกจากผลิตภัณฑ์เปลและพรมเช็ดเท้า ใน ต.จำปาหล่อ ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนของ ต.คลองขนาด ยังมีของดีของอร่อยประจำท้องถิ่นคือขนมไทยหลากหลายชนิดเช่นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สาลี่และน้ำสมุนไพรซึ่งชาวอำเภอวิเศษชัยชาญได้สืบทอดความอร่อยกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษในสมัยอยุธยา นางชนิญา โพธิ์สุข ผอ.กศน.ต.จำปาหล่อ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง กล่าวถึงโครงการว่า “อำเภอวิเศษชัยชาญเรามีความโดดเด่นในเรื่องของการทำขนมไทย ในพื้นที่จะมีวัตถุดิบที่สำคัญในการทำขนมไทยคือไข่เป็ดซึ่งมีความสด มีสีแดงสดทำให้ขนมที่ทำมีสีสันที่สวยงามแล้วก็จะมีรสชาติที่อร่อย ปรัชญาในการทำงานให้เกิดประสบผลสำเร็จคือผู้นำ ผู้นำในหมู่บ้านสมารถเชื่อมโยงกลุ่มต่างๆให้เข้ามาร่วมมือกันทำงานโดยมีภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นต้นทุน และประสานหลักคิดที่ว่าคนรุ่นเก่าก็ต้องเรียนรู้กับเรื่องใหม่ๆคนรุ่นใหม่ก็ต้องเรียนรู้เรื่องเก่าด้วยเช่นเป็นการประสานวัฒนธรรมที่จะต้องเรียนรู้ร่วมกันทั้ง 2 ส่วน การเรียนรู้และร่วมมือกันในการทำงาน จะทำให้งานนั้นประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น กิจกรรมในวันนี้มีท่านนายกองค์การบริหารส่วนตําบล ต.คลองขนาก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และครู กศน. โดยมี กอ.รมน.จังหวัดประสานงานกับทางกอ.รมน.ส่วนกลาง ในการพัฒนายกระดับอาชีพ ของคนในชุมชน เป็นการทำงานแบบสามประสาน จากพื้นที่อำเภอ สู่จังหวัด และกอ.รมน.ส่วนกลาง” นอกจากการส่งเสริมอาชีพทำให้ประชาชนมีรายได้และมีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ทางสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เกิดการหยุดชะงักของการประกอบอาชีพตัวอย่างเช่น เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่จังหวัดปราจีนบุรี ทางมณฑลทหารบกที่ 12 เห็นถึงผลกระทบดังกล่าวจึงได้จัดโครงการ “หน่วยทหารจ่ายตลาด” เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยการรับซื้อผลผลิตและวัตถุดิบสำหรับกำลังพล ตามนโยบายของพลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ้งเน้นย้ำให้หน่วยทหารทั่วประเทศให้ความสำคัญในภารกิจที่กองทัพบกในการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาในทุกด้านทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ปัญหาภัยแล้ง สกัดกั้นยาเสพติดและสินค้าเกษตรเลี่ยงภาษี กำลังพลร่วมบริจาคโลหิตสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ตั้งด่านตรวจในรอยต่อจังหวัดตราด สนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 และเน้นย้ำเรื่องการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่โดยสั่งให้ดำเนินโครงการหน่วยทหารจ่ายตลาดช่วยเกษตรกร ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดหาวัตถุดิบการประกอบอาหารให้กับทหารกองประจำการด้วยการให้หน่วยทหารทั่วประเทศลงพื้นที่ชุมชนรอบพื้นที่ของหน่วยจัดซื้อผลผลิตทางการเกษตรโดยตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางและลงพื้นที่ตลาดในชุมชนอุดหนุนสินค้าพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยเพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น ตัวอย่างเช่นตลาดสดหน้า ค่ายจักรพงษ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีในแต่ละสัปดาห์นั้นจะมีกำลังพลของมณฑลทหารบกที่ 12 มาจ่ายตลาดซื้อวัตถุดิบเช่นพริกหน่อไม้ไข่ไก่กุ้งแห้งและอุปกรณ์ปรุงอาหารต่างๆในบางครั้งก็มาซื้อทุเรียนเงาะของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดตามกำลังงบประมาณที่มี นางสาวมะยุรี พูนแช่ม แม่ค้าขายผัก ได้เล่าถึงความประทับในกิจกรรมนี้ว่า “ปกติขายมะนาวขายผักขายทุกอย่างส่วนใหญ่ทหารเขาจะซื้อมะนาวซื้อผักซื้อชะอมซื้อเครื่องส้มตำมาค่ะเขาช่วยอุดหนุนก็อุดหนุน เป็นประจำซื้อเยอะไม่ต่อราคา เรารู้สึกดีมาก ดีใจมากที่ทหารมาช่วยอุดหนุน เพราะว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี อยากพวกผลไม้ ก็ขายยาก ทหารก็มาช่วยแม่ค้าผลไม้ซื้อไปแจกจ่ายกำลังพล และเด็กๆในค่าย ทหารใจดีมากคะไม่เคยต่อราคา เห็นเราขายไม่ได้ก็มาช่วย วันไหนมีเงินมาเยอะก็ซื้อเยอะ ถ้าวันนี้ไม่มีทหารมาช่วยเราคงแย่ขายของไม่ได้คะ บางทีแม่ค้าก็แถมคะเพื่อเป็นการขอบคุณทหารที่เข้ามาช่วย” สำหรับเกษตรกรในพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 12 ตัวอย่างเช่นที่สวนคุณสมหวัง เจริญดีและสวนคุณพรถวิล เจริญดี ทางมณฑลทหารบกที่ 12 ได้จัดให้กำลังพลเข้าไปรับซื้อผลผลิตพืชผัก ผลไม้ โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางและยังช่วยเกษตรกรเก็บผลผลิตที่จะต้องการด้วย นางพรถวิล เจริญดี กล่าวถึงความช่วยเหลือที่ได้รับจากหน่วยทหารว่า “ที่สวนปลูกผักหลายชนิด ปลูกมะเขือ ผักบุ้ง ถั่ว แตง โดยมีขาประจำคือทหารที่เข้ามารับซื้อถึงสวน ซื้อจำนวนเยอะ อันไหนขายยากบอกทหารเขาก็จะช่วยซื้อไม่เกี่ยงงอน ขอบคุณมากๆที่มาช่วยประชาชนให้อยู่คู่กับประชาชนไปนานๆช่วยเหลือประชาชนคนยากคนจนขอบคุณหลายๆค่ะ” ผักและผลไม้จำนวนมากที่ซื้อมาในแต่ละวันจะถูกจัดสรรเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารให้กับกำลังพลในค่ายจักรพงษ์ เพื่อให้กำลังพลของกองทัพบกได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการโครงการ“หน่วยทหารจ่ายตลาด” ช่วยเกษตรกรฟื้นฟูเศรษฐกิจนี้ถือเป็นภารกิจหนึ่งของกองทัพบก หน่วยทหารทั่วประเทศในการบรรเทาความทุกข์ยากของเกษตรกรช่วยให้สามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในปริมาณที่มากขึ้นลดการสูญเสียของผลผลิตเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและสร้างอาชีพที่ยั่งยืนแม้ว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิช 19 ในประเทศไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆก็ตามแต่ทหารไทยก็จะยังอยู่คู่กับพี่น้องประชาชนคนไทยแล้วก็ช่วยอุดหนุนเกษตรกรเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง ขอขอบคุณข้อมูลจากรายการเดินหน้าปฏิรูป ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง5 ทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี เวลา 21.00-22.00 น.