เคยได้ยินแต่วลีที่ว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ทว่า สำหรับ “กองทัพอังกฤษ” ประเทศฉายาว่า เมืองผู้ดี อดีตมหาอำนาจโลก ดินแดนที่ตะวันไม่เคยตกดิน เพราะมีอาณานิคมเป็นจำนวนมาก จากฟากตะวันตก จรดฝั่งตะวันออกของโลกเรา นอกจากพวกเขาเดินด้วยท้อง คือ กินอิ่ม นอนอุ่น ด้วยสรรพเสบียงกรังที่ทางรัฐบาลลอนดอน จัดสรรงบประมาณไปให้แล้ว ทางการของพวกเขา ก็เตรียมภาษีของประชาชนจำนวนหนึ่ง นำไปเป็นงบประมาณสำหรับการซื้อหาแจกจ่าย “ไวอะกรา (Viagra)” ยาขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศชาย หรือท่านชายทั้งหลายรู้จักกันดี ในฐานะยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ ให้แก่บรรดาทหารหาญไว้เลยทีเดียว โดยยกให้เป็นหนึ่งในเวชภัณฑ์ของกำลังพลทางกองทัพที่จำเป็นต้องมีประจำการไว้ในคลังยาของฝ่ายเสนารักษ์ด้วย แถมมิหนำซ้ำ มีรายงานทางตัวเลขสถิติว่า แต่ละปีก็จะมีทหารมาขอรับยาไวอะกราจำนวนเพิ่มมากขึ้นๆ อีกต่างหาก นอกจากยาไวอะกรา เม็ดยาสีฟ้าขวัญใจของบรรดาท่านชายทั้งหลายแล้ว ก็ยังมี “โปรแซค (Prozac)” ยาสำหรับรักษาอาการซึมเศร้า และทำให้เกิดภาวะการตื่นตัว ก็เป็นอีกตัวยาตำรับหนึ่ง ที่กำลังพลของกองทัพอังกฤษ พากันแห่มาขอรับยาไปรับประทานเป็นจำนวนมาก โดยทาง “กระทรวงกลาโหมของอังกฤษ” หรือ “เอ็มโอดี” หรือที่เรียกนิกเนมกันให้น่ารัก น่าเอ็นดู ว่า “มด” (MOD : Ministry of Defence) เปิดเผยถึงรายละเอียดตัวเลขของการขอรับยาทั้ง “ไวอะกรา” และ “โปรแซ็ค” ของเหล่าบรรดาทหารหาญแห่งกองทัพอังกฤษว่า มีจำนวนมากถึง 8,801 นาย หรือเกือบ 9,000 นาย สำหรับเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา คือ 2019 (พ.ศ. 2562) แบ่งเป็นกำลังพลที่มาขอรับยาไวอะกรา จำนวนรวมแล้ว 1,033 นาย หรือเฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละราว 20 นาย โดยจำแนกแยกย่อยเป็นเจ้าหน้าที่ธรรมดา จำนวน 230 นาย และนายทหารที่มีชั้นยศระดับต่างๆ จำนวน803 นาย ขณะที่ กำลังพลที่มาขอรับยาโปรแซ็ค เพื่อนำไปใช้ต่อต้านภาวะซึมเศร้า ให้บังเกิดความตื่นตัวนั้น ปรากฏว่า เมื่อปีที่แล้ว มีจำนวนมากถึง 7,769 นาย โดยมีรายละเอียดแบ่งเป็น กำลังพลของกองทัพบก รับยาไปมากที่สุด จำนวน 4,491 นาย รองลงมาเป็น “ลูกทัพฟ้า” กำลังพลของกองทัพอากาศ จำนวน 1,778 นาย รั้งท้ายด้วยลูกนาวี กำลังพลของกองทัพเรือจำนวน 1,500 นาย ทั้งนี้ แหล่งข่าวในกองทัพอังกฤษ ยังเปิดเผยด้วยว่า การขอรับยา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาไวอะกรา นับวันจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี เอาเฉพาะจากตัวเลขดังกล่าว ก็มีจำนวนมากกว่าตัวเลขของเมื่อ 3 ปีก่อนหน้า คิดเป็นร้อยละ 11และเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 3 ปีที่แล้ว กับช่วงปีก่อนหน้านั้น ก็เพิ่มขึ้นมาเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น เมื่อนับรวมกับตัวเลขของกำลังพลในกองทัพที่มาขอรับยาไวอะกรา ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ก็มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 3,000 – 4,000 นาย โดยทั้งหมดที่มาขอรับยาไวอะกรา ก็มิใช่อะไรอื่น แต่เพื่อสร้างเสริมสมรรถภาพทางเพศ ในยามสู้ศึกรักในสมรภูมิบนเตียงกับคู่รักของพวกเขา นั่นเอง ด้วยปริมาณตัวเลขของจำนวนกำลังพลในกองทัพที่มาขอรับยาไวอะกราเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย ก็ทำให้เกิดมีรายงานจากคลังยา คลังเวชภัณฑ์ ของฝ่ายเสนารักษ์ คือ ทหารหมอ ว่า ถูกกำลังพลลักลอบบุกรุกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยหยูกยาที่หายไป ก็เป็น ยาไวอะกรา ที่หาย เพราะถูกขโมยไปเป็นประจำ แตกต่างจากยาชนิดอื่นๆ ที่ยังอยู่ดีเฉยในคลังยา แถมการหายแต่ละครั้ง ก็เป็นจำนวนมากอีกต่างหากด้วย โดยที่นับว่า สร้างความฮือฮาเพราะหายไปเป็นจำนวนมหาศาล ก็เป็นกรณีที่เป็นข่าวเมื่อปี 2014 (พ.ศ. 2557) ปรากฏว่า ยาไวอะกรา หายไปจากคลังยากองทัพคิดเป็นมูลค่า 6,000 ปอนด์ (คิดเป็นเงินไทยประมาณกว่า 2.33 แสนบาท) ขณะที่ แหล่งข่าวจากกองทัพของอังกฤษรายหนึ่ง เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้กำลังพลของกองทัพอังกฤษ ต้องหันมาพึ่งยาไวอะกรา รวมไปถึงยาโปรแซ็ค กันเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ก็มาจากการได้รับผลกระทบที่ได้รับทางจิตใจและอารมณ์ที่อยู่ในภาวะความตึงเครียด ในช่วงที่พวกเขาถูกระดมกำลังเข้าสู่สมรภูมิรบทางสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามอิรัก สงครามอัฟกานิสถาน เป็นต้น ที่ทางการอังกฤษ ส่งกำลังพลไปร่วมตะลุมบอนกับเหล่าทัพชาติพันธมิตรในช่วงที่ผ่านมา จนมีผลเสียต่อสมรภูมิรักของพวกเขา หลังจากที่กลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิดบนเกาะอังกฤษแล้ว แบบว่า ชนะสมรภูมิรบ แต่ทำท่าว่าจะพ่ายสมรภูมิรัก เพราะอาวุธประจำกายหลัก คือ อวัยวะเพศของพวกเขาหย่อนสมรรถภาพ ท่ามกลางเสียงเพรียกเตือนจากแพทย์ทั้งหลาย การใช้ยาประเภทนี้ต้องพึงระวัง เพราะมีผลข้างเคียงที่อาจทำให้พิกล พิการ ทั้งทางหู ทางสายตา และอวัยวะเพศเอง ตลอดจนมีปัญหาต่อระบบหัวใจ รวมถึงภาวะความดันโลหิตตกอย่างรุนแรงจนอาจถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นหลายรายด้วยกัน