ประธานสภาอุตสาหกรรมตรัง เผยโควิด -19 วิกฤติ ยังมีโอกาสของภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดตรัง โดยเฉพาะผู้ผลิตปลากระป๋องและถุงมือยาง เร่งการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อผลิตสินค้าให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า
นายประชา งามรัตนกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลกเป็นวงกว้าง เริ่มต้นจาก วิกฤตสุขภาพ (Global Health Crisis) เข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจ (Global Economic Crisis) แต่ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว กลับเป็นทั้งวิกฤติและโอกาส ของภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดตรัง
นายประชา เปิดเผยต่อไปว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดตรังก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤติดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากจังหวัดตรัง เป็นผู้ผลิตสินค้ากลางน้ำ ทั้งน้ำยางข้น ยางแผ่นรมควัน ยางอัดก้อนและไม้ยางพารา ซึ่งจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ อีกทั้งท่าเทียบเรือก็ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ เรือสินค้าที่ส่งสินค้าออกไปยังจีน ต้องจอดลอยลำอยู่กลางทะเล
“สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ได้ส่งผลกระทบต่อยอดสั่งซื้อที่ลดลง ขาดสภาพคล่อง มาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงกลายเป็นการซ้ำเติมภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดตรัง อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤติดังกล่าว จังหวัดตรัง กลับมีผลกระทบทางบวกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ผลิตถุงมือยาง จากความจำเป็นทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้เกิดความขาดแคลนถุงมือยางทางการแพทย์ จึงต้องเร่งการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อผลิตสินค้าให้ทันต่อความต้องการ โดยมียอดสั่งซื้อต่อเนื่องยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2564” นายประชา กล่าว
นายประชา กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภค อย่างปลากระป๋อง ก็มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เริ่มคลี่คลาย โอกาสดีๆ จึงเกิดขึ้นกับจังหวัดตรัง อีกครั้ง สินค้าต่างๆ จากหลายๆ จังหวัด หลั่งไหลเข้ามายังพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อผ่านท่าเทียบเรือที่มีอยู่ในพื้นที่ที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อส่งออกสินค้าไปยังประเทศปลายทางต่างๆ
นายประชา กล่าวต่อไปว่า จากวิกฤตโควิด -19 สู่โอกาสดีๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกภาคส่วนได้ทราบถึงความสำคัญและประโยชน์ของท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยในภาวะวิกฤติแล้ว โอกาสที่จังหวัดตรัง จะได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภาคใต้ ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบกับหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดตรัง เนื่องจากจังหวัดตรัง เป็นผู้ผลิตสินค้ากลางน้ำ ทั้งน้ำยางข้น ยางแผ่นรมควัน ยางอัดก้อน และไม้ยางพารา ซึ่งจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ อีกทั้งท่าเทียบเรือก็ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ เรือสินค้าที่ส่งสินค้าออกไปยังจีน ต้องจอดลอยลำอยู่กลางทะเล” นายประชา กล่าว
นายประชา กล่าวต่อไปอีกว่า อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤติดังกล่าว จังหวัดตรัง กลับมีผลกระทบทางบวกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ผลิตถุงมือยาง จากความจำเป็นทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้เกิดความขาดแคลนถุงมือยางทางการแพทย์ จึงต้องเร่งการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อผลิตสินค้าให้ทันต่อความต้องการ โดยมียอดสั่งซื้อต่อเนื่องยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2564 ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภค อย่างปลากระป๋อง ก็มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน.