ช่วยคนไทยเข้าถึงยาต่างๆ ที่จำเป็นได้มากขึ้น ทั้งทันสมัย-ใหญ่สุดในภูมิภาค ความคืบหน้าล่าสุดแล้วเสร็จ 30% ดร.ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 บนพื้นที่ขององค์การเภสัชกรรม (คลอง10) อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่า โครงการใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี เริ่มตั้งแต่ก.ค.62-มิ.ย.65 ขณะนี้คืบหน้าประมาณ 30% เร็วกว่าแผนงาน 30 วัน โดยตอกเสาเข็มเสร็จแล้วทุกอาคาร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างฐานราก โดยดำเนินการคู่ขนานกับการจัดทำข้อกำหนดเครื่องจักรและคัดเลือกเครื่องจักรและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ต้องใช้ในการผลิตยาตามมาตรฐาน GMP-PIC/S คาดจะเปิดทำการผลิตได้ภายในปี 65จะเป็นโรงงานผลิตที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในอาเซียน ช่วยให้คนไทยเข้าถึงยาได้มากขึ้น ในการดำเนินการก่อสร้าง องค์การได้เข้าร่วมลงนามในข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ในการจัดซื้อจัดจ้าง การดำเนินงานต่างๆของโครงการ โดยมีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เข้าร่วมเป็นสักขีพยานให้ข้อแนะนำในการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ซึ่งพบว่ายังไม่มีการร้องเรียนผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากชุมชนรอบพื้นที่ก่อสร้างฯ รองผอ.อภ.กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้จะผลิตยาน้ำ ยาฉีด ยาครีม/ขี้ผึ้ง และยาเม็ด ในกลุ่มยารักษาโรคเรื้อรัง ยาที่มีปริมาณการใช้สูง ยาจำเป็น ได้แก่ ยารักษาโรคเอดส์ เบาหวาน ความดัน ลดไขมันในเส้นเลือด วัณโรค ยาช่วยชีวิต ยาฆ่าเชื้อ วิตามิน เป็นต้น เป็นโรงงานSmart Industry ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีระดับสากล นำระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence)เทคโนโลยีดิจิตอล (Digital Technology) เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robotics) เทคโนโลยีเชื่อมโยงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตกับทุกสิ่ง (Internet of Things : IoT) เทคโนโลยีระบบบริหารจัดการและควบคุมอาคารอัตโนมัติ (Building Automation System) เข้ามาใช้ในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต รวมถีงการจัดเก็บสินค้าใช้ระบบคลังอัตโนมัติ