“กบอ.”เร่งเครื่องแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่อีอีซี ชู 5 คลัสเตอร์ ผลไม้ พืชชีวภาพ ประมง สมุนไพร พืชมูลค่าสูง ยกระดับรายได้เกษตรให้เทียบเท่ากลุ่มอุตสาหกรรมและบริการ ดึงเทคโนโลยียกระดับทุกขั้นตอน พร้อมเร่งรัดบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอป้องภัยแล้งปีต่อไป พร้อมขอผ่อนผันนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศทำธุรกิจในอีอีซีต่อได้ จ่อหารือกระทรวงสาธารณสุข-นายกฯอนุมัติ นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งที่ 3/2563 ที่มี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธานว่า กบอ.ได้รับทราบการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)ได้แก่ จ.ระยอง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี โดยได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานที่มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน และมีผู้แทนจาก สกพอ.เป็นเลขานุการร่วมเพื่อขับเคลื่อนแผนที่จะมุ่งเน้น 5 คลัสเตอร์พื้นฐานที่สามารถทำได้ทันทีได้แก่ 1.ผลไม้ 2.พืชชีวภาพหรือ Bio-Based 3.ประมง 4.สมุนไพร 5.พืชมูลค่าสูงเช่นไม้ประดับ/ผักปลอดสารพิษ มีเป้าหมายยกระดับรายได้เกษตรกรให้เทียบเท่ากลุ่มอุตสาหกรรมและบริการ โดยการพัฒนาพืชเกษตรจะมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมมาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แนวทางพัฒนาที่สำคัญคือมองความต้องการนำการผลิต อาทิ รองรับมหานครการบินภาคตะวันออก เมืองใหม่ และการท่องเที่ยว และความต้องการในต่างประเทศ ควบคู่ไปกับยกระดับการตลาด การแปรรูป การเกษตร ด้วยเทคโนโลยีในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)ติดตามและเร่งรัดการพัฒนาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำทุกภาคส่วน เพื่อทำให้พื้นที่อีอีซี เกิดความมั่นคงด้านน้ำ ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและการบริโภคอย่างยั่งยืนในปี 2563/64 ตามแนวนโยบายของพล.อ.ปริวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้มีการบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือภัยแล้งในปีถัดๆไปหลังจากที่สทนช. กรมชลประทาน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) และเอกชนได้ร่วมกันดำเนิน 8 โครงการ 4 มาตรการในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งปีนี้ที่สามารถผ่านพ้นวิกฤติแล้งไปได้ ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้รับทราบการพัฒนาโครงการจัดหาพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์) ในพื้นที่ อีอีซีโดยมอบให้ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เสนอโครงการพลังงานที่ใช้ในเมืองใหม่ รูปแบบพลังงานอัจฉริยะ (Smart Power Supply : SPS) ในลักษณะการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง หรือ Independent Power Supply (IPS) ซึ่งมอบหมายให้ บริษัทพีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผลิตไฟฟ้าเพื่อส่งให้ กฟภ.รับซื้อ และส่งจำหน่ายสำหรับใช้ในเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ โดยกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าต้องไม่สูงกว่าราคาไฟฟ้าทั่วไปที่ กฟภ.ขายให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่นๆ นายคณิศกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้อนุมัติแนวทางผ่อนปรนการเดินทางเข้าประเทศที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมในพื้นที่ อีอีซีโดยจะหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการกบอ.ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อขออนุมัติอีกครั้ง ทั้งนี้กลุ่มบุคลากรภาคธุรกิจในพื้นที่อีอีซี จากประเทศญี่ปุ่น อาทิ หอการค้าประเทศญี่ปุ่น (Japanese Chamber of Commerce : JCC)และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO)ภาคธุรกิจจากสาธารณรัฐเกาหลี และประเทศอื่นที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมได้ยื่นหนังสือถึงภาครัฐ ขอให้ผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ รวมถึงการส่งช่างเทคนิค เข้ามาตรวจสอบซ่อมบำรุงเครื่องจักรในอุตสาหกรรม และเพื่อสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ต่อเนื่อง โดยขณะนี้ สถานการณ์โควิด-19ในประเทศไทยและต่างประเทศปัจจุบันมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนปรนในระยะต่างๆ ดังนั้น เพื่อรองรับบุคลากรภาคธุรกิจในพื้นที่ อีอีซี ในช่วงระยะการฟื้นตัวของประเทศ สกพอ.จึงมีแนวทางผ่อนปรนการเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ สร้างภาคีเครือข่ายระหว่างองค์กร บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศต้นทางกับสถานเอกอัครราชทูตไทย หรือสถานกงสุลใหญ่ จัดให้มีการตรวจและออกใบรับรองแพทย์ ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมกับการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly) ขณะเดียวกันจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุข พิจารณากำหนดประเทศต้นทาง และจำนวนบุคลากรที่จะอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศในแต่ละช่วงเวลา การกำหนดมาตรการกักกันFlexible Alternative Quarantineให้ผู้เดินทางเข้าประเทศสามารถทำภารกิจที่จำเป็นได้ และร่วมกันพิจารณาขึ้นทะเบียน สถานกักตัวทางเลือกAlternative State Quarantineเพิ่มเติมในพื้นที่ อีอีซี ที่บุคลากรในโรงพยาบาลเอกชนสามารถสื่อสารภาษากับประเทศต้นทางได้ เพื่ออำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น “มีบุคลากรอีกเป็นร้อยที่ต้องการเข้ามาทำงานในโครงการลงทุนอีอีซี เขาขอให้เราผ่อนปรนการเดินทางเข้ามา และพร้อมที่จะปฏิบัติตัวตามเงื่อนไขเช่น กักตัว 14 วัน แต่ขออยู่ในโรงแรมแถวสุขุมวิท และขอทำงานด้านเอกสารบ้าง ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆพร้อมออกเองทั้งหมด”