เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(9มิถุนายน2563) ได้มีกลุ่มชาวบ้านตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยนายอำนาจ หงษ์จร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ นายประเทือง กันคล้อย เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ นายลือชา เสถียรวิรภาพ ปลัด อบต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากโครงการส่งน้ำฯและนายสิทธิวิช ดีศิริ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชาวบ้าน ลงพื้นที่ดูแนวถมดินที่มีผู้รับเหมา นำดินมาถมลงในคลอง เพื่อทำถนน บริเวณริมคลองจรเข้ใหญ่ หมู่5 ด้านหลังบ้านเอื้ออาทรซอยวัดศรีวารีน้อย เพื่อทำเป็นเส้นทางสำหรับรถบรรทุกขนดินเพื่อสร้างหมู่บ้านขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากถนนที่อยู่ติดกับคลองนั้น ทางอบต.ได้มีป้ายบอกว่าห้ามรถบรรทุกวิ่งบนถนนสายดังกล่าวเกรงว่าถนนจะชำรุด ทำให้ทางกลุ่มผู้ประกอบการ สร้างหมู่บ้านได้ให้ผู้รับเหมานำดินมาถมบริเวณคลองจรเข้ใหญ่ เพื่อทำเป็นทางรถบรรทุกขนดิน เพื่อไปถมสร้างหมู่บ้าน แต่ปรากฎว่า ดินที่ถมเกิดสไลด์ตัวลงไปในคลอง ทำให้เกิดเป็นสันดรกลางคลอง ทำให้ชาวบ้านในระแวกดังกล่าว หวั่นว่าจะขวางทางน้ำไหล เนื่องจากคลองดังกล่าวเป็นคลองหลักที่ใช้สำหรับระบายน้ำ และใช้ทางการเกษตรและเลี้ยงปลาของชาวบ้านในระแวกดังกล่าว และตั้งข้อสงสัยว่าผู้รับเหมาได้ขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ด้านนายอำนาจ หงษ์จร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีผู้ประกอบการนำดินมาถมคลองเพื่อทำถนน ซึ่งคลองดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของกรมธนารักษ์ เพราะทราบจากผู้รับเหมาถมคลองว่า ได้ขออนุญาตถูกต้องแล้ว ก็ไม่รู้ว่าได้รับอนุญาตจริงหรือไม่ วันนี้จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและชี้แจงต่อหน้าชาวบ้าน ด้านนายสิทธิวิช ดีศิริ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร กล่าวว่า ทางผู้ประกอบการได้ทำเรื่องขอทำแนวเขื่อน ที่หมู่ 5 ริมคลองจรเข้ใหญ่ ซึ่งบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นพื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน การขออนุญาตก็ต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ก็คือกรมธนารักษ์ แต่เนื่องจากการก่อสร้างได้ก่อสร้างผิดจากรูปแบบที่ได้ขออนุญาตไว้ ซึ่งตนจะนำเรื่องดังกล่าวชี้แจงรายงานกับทางผู้อำนวยการ และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่าผู้รับเหมาดำเนินการไม่ถูกต้องจริงๆ เนื่องจากทำเรื่องไว้ ขอทำแนวเขื่อน แต่ทำจริงกลับเป็นการถมดิน และการอนุญาตยังดำเนินการยังไม่สมบูรณ์ แต่ผู้รับเหมาได้ลงมือดำเนินการก่อน ซึ่งต้องทำเรื่องเสนอให้ผู้อำนวยการ สั่งให้หยุดดำเนินการ โดยเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งได้กล่าวเสริมว่า ทางผู้ประกอบการได้ทำเรื่องขออนุญาตสร้างเขื่อน ห่างจากริมถนนไป2.80 เมตร และขอขยายถนนจากผิวการจราจรเดิมออกไปอีก1.80เมตร ซึ่งทำเรื่องขอทำแนวเขื่อนตลอดแนวระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ในส่วนของถนนนั้นเป็นเรื่องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าจะอนุญาตหรือไม่ เนื่องจากตรงนี้เขาทำเพื่อส่วนร่วมทำเพื่อท้องถิ่น เพราะเมื่อสร้างเสร็จแล้วเป็นสาธารณะประโยชน์ ชาวบ้านสามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ แต่ในส่วนที่เกิดความเสียหาย เขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ด้านชาวบ้านในระแวกดังกล่าว กล่าวว่า ดินที่ถมลงไปในคลองได้สไลด์ตัวลงไปกลางคลองทำให้คลองตื้นเขิน ซึ่งเห็นว่าได้มีรถวิ่งถมดินประมาณ 500 เที่ยวแต่ยังไม่ไปถึงไหน แสดงว่าดินได้สไลด์ลงไปด้านล่างคลองหมดแล้ว ซึ่งชาวบ้านหวั่นว่าดินที่เป็นสันดรกลางคลองจะเป็นตัวกั้นขวางทางระบายน้ำเนื่องจากคลองจรเข้ใหญ่ถือเป็นคลองสายหลักในการระบายน้ำ ต่อมานายวีระ สีสามผู้ประกอบการถมดิน ได้เข้ามาจรจากับชาวบ้านและหน่วยงานต่างๆที่มาตรวจสอบ โดยรับปากว่าจะดำเนินการแก้ไข ขุดลอกคลองให้ โดยบอกว่าอยากให้ทุกคนบันทึกคำพูดได้เลยว่า ตนจะดำเนินการขุดลอกคลองให้ฟรี ไปจนถึงวัดจรเข้ใหญ่ หลังจากดำเนินการสร้างเขื่อนเสร็จแล้ว และตนจะไปลงบันทึกไว้ที่อบต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ไว้ด้วย หากมีอะไรที่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนก็ขอให้บอกให้แจ้งมา ตนจะยินดีที่จะดำเนินการแก้ไขให้ทุกอย่าง และหากมีหนังสือสั่งการมาให้ตนหยุดดำเนินการก่อนตนก็ยินดีที่จะทำตาม