รพ.เอกชนย่านศรีนครินทร์ หลังญาติตั้งข้อสงสัยหมอกดท้องแรง วันนี้เรียกทั้งสองฝ่ายแจกแจงข้อเท็จจริง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ก.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล ถึงสตรีมีครรภ์รายหนึ่ง ซึ่งเข้ารับบริการอัลตราซาวด์ 4 มิติ กับโรงพยาบาลเอกชนย่านศรีนครินทร์ แต่ขณะตรวจแพทย์ได้กดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งญาติตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นสาเหตุให้แท้งว่า เมื่อรับทราบข้อมูลได้ให้เจ้าหน้าที่กองกฎหมาย กรม สบส.สืบสวนข้อเท็จจริงทันที โดยมุ่ง3 ประเด็นสำคัญได้แก่ 1)ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลมีการควบคุมและดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลของตนให้ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพตามที่พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนดหรือไม่ 2)ในการให้บริการบริการอัลตราซาวด์ ผู้ประกอบวิชาชีพมีการดำเนินการตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ 3)สถานพยาบาลมีการควบคุม คุณภาพ มาตรฐาน ด้านสถานที่ ผู้ให้บริการ การบริการ เครื่องมือแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายสถานพยาบาลกำหนดหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว และจะเชิญผู้เกี่ยวข้องจากโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวมาชี้แจงข้อเท็จจริง ณ กรม สบส. ในวันที่ 9 มิ.ย.63 เพื่อความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน สมประโยชน์ ขอเน้นย้ำให้สถานพยาบาลทุกแห่งปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักคุณธรรม มนุษยธรรมเป็นหัวใจบริการ ยิ่งสตรีตั้งครรภ์ยิ่งต้องดูแลอย่างรอบคอบรัดกุมเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันและลดภาวะแทรกซ้อนระหว่างคลอดและหลังคลอด ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า หากผลการตรวจสอบพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตของทารกเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องของผู้ให้บริการ ก็จะมีการเอาผิดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กับตัวของผู้ดำเนินการสถานพยาบาลในฐานปล่อยปละละเลยไม่ควบคุมและดูแลผู้ประกอบวิชาชีพให้ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งจะมีการส่งผู้ข้อมูลให้สภาวิชาชีพดำเนินการในด้านจริยธรรมกับผู้ประกอบวิชาชีพต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนมีเบาะแส หรือพบการกระทำผิดของสถานพยาบาลเอกชน ในกทม. แจ้งสายด่วน 1426 กรม สบส. และศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กรม สบส. โทร.0-2193-7057 เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย