“มนัญญา" จี้ 2 กรมเข้าตรวจสอบสหกรณ์ขนาดใหญ่ ระบุพบบัญชีเงินฝาก เงินกู้ เคลื่อนไหวผิดปกติ ลั่นยุครมช.เกษตรฯคนนี้ กฏหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ หวั่นเกิดปัญหาซ้ำรอย เร่งสร้างระบบป้องปราม ก่อนกระทบเป็นลูกโซ่
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าภายในสัปดาห์นี้ จะเรียกอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มาประชุมติดตามกรณีที่สั่งให้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบสหกรณ์ที่มีข้อบกพร่องหรือเกิดการทุจริต เพื่อเร่งวางระบบป้องปรามการเกิดปัญหาก่อนเป็นเป็นปัญหาใหญ่ ซ้ำรอยที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่ามีการตรวจสอบทุกสหกรณ์ในเขตต่างๆ แต่การตั้งคณะทำงานส่วนกลาง เข้าไปจะมีความเข้มแข็ง และลงได้ลึก
“สหกรณ์ขนาดใหญ่ ได้เริ่มเข้าตรวจสอบมีลิสต์รายชื่อไว้แล้ว ขณะนี้รอรายงาน จากอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะเรียกมาประชุมกันวางแนวทาง มาตรการรองรับถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างจะต้องไม่เกิดผลกระทบกับสมาชิก ซึ่งมีสหกรณ์หลายแห่ง ที่นำเงินไปลงทุนเกินตัว ต้องเข้าไปจับตาการเคลื่อนไหวทางบัญชี ทั้งเงินฝาก เงินกู้ เมื่อใช้ระบบป้องปราบ จะแก้ไขได้ทันเหตุการณ์ก่อนเกิดปัญหาใหญ่ ที่จำเป็นที่สุดดิฉันต้องการให้มีระบบตรวจสอบที่เข้มแข็ง จะทำให้การบริหารงานแต่ละสหกรณ์มีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะสมาชิกให้เข้าใจว่าหน้าที่ตนเองสามารถเข้าไปตรวจสอบสหกรณ์ที่เงินไปฝากและนำไปลงทุนอย่างไรด้วย เปรียบเสมือนเงินในกระเป๋าเราก็ต้องตรวจนับตลอด ขณะนี้สหกรณ์หลายแห่งเริ่มมีสถานการณ์เป็นแผลพุพองแล้ว”น.ส.มนัญญา กล่าว
น.ส.มนัญญา กล่าวว่าสหกรณ์ขนาดใหญ่ ที่เกิดปัญหาจะเข้าไปดูปัญหาเพื่อแก้ไขเพราะเมื่อทุกคนทำความผิดใดๆต้องอยู่ภายใต้กฏหมาย ให้มีการบังคับใช้ในทางที่ถูกต้อง เราต้องการให้กฏหมายเกิดความศักดิ์สิทธิ ในช่วงมาเป็นรัฐมนตรีเกษตรใครทำผิด ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย จะต้องดำเนินการทั้งหมดอย่างรวดเร็วเพื่อไม่เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้งนี้สหกรณ์ที่เข้าตรวจสอบ ไม่ได้อยู่ใน85สหกรณ์ที่นำเงินลงทุนในบริษัทการบินไทย และยืนยันว่ารัฐบาล ดูแลสหกรณ์นำเงินไปซื้อหุ้นการบินไทย อย่างเต็มที่ไม่ปล่อยแน่นอน เพราะเป็นเงินของประชาชนจำนวนมากมาย
น.ส.มนัญญา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด กับพวกรวม 6 ราย ได้ปล่อยเงินกู้ 199 สัญญา วงเงิน 2,200 ล้านบาท ว่าเร่งรัดให้ฝ่ายทุกฝ่ายเกี่ยวข้องการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำทุจริตทุกรายและฟ้องร้องเรียกคืนสินทรัพย์ ให้ประชุมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ติดตามเรื่องนี้ตลอดเวลา ซึ่งดิฉันเข้ามาดูแลสหกรณ์ จะใช้ระบบการตรวจสอบอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างนี้ขึ้นอีก