อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง แหล่งน้ำดิบผลิตประปาหล่อเลี้ยงตัวเมืองบุรีรัมย์ แห้งวิกฤตหนัก เหลือน้ำเพียง 1.3 หมื่น ลบ.ม. ต้องสูบน้ำจากห้วยสวายเป็นน้ำดิบผลิตประปา ขณะการประปาฯ ประกาศลดแรงดันจ่ายน้ำลง 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 1 มิ.ย.เป็นต้นมา ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบน้ำประปาไม่ไหล ขาดแคลนน้ำใช้มา 3-4 วันแล้ว วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังไม่คลี่คลาย ถึงแม้ในช่วงนี้จะมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นมากนัก โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปา ของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบุรีรัมย์ ให้บริการประชาชน ในเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ และ อ.ห้วยราช มีปริมาณลดต่ำลง ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤตมาก จนมองเห็นเนินดินและซากตอไม้โผล่กลางอ่าง และยังสามารถลงไปเดินในอ่างได้ ทั้งนี้ เนื่องจากฝนไม่ตกในพื้นที่รับน้ำ ประกอบกับเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงมาต่อเนื่อง 2 ปีแล้ว ทำให้ไม่มีน้ำไหลเข้าอ่าง ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก เหลือน้ำกักเก็บเพียง 7,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือเฉลี่ย 0.03 เปอร์เซ็นต์ จากปริมาณความจุอ่างทั้งหมดกว่า 26 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด เหลือน้ำกักเก็บเพียง 6,000 ลบ.ม. หรือเฉลี่ย 0.02 เปอร์เซ็นต์ จากปริมาณความจุอ่างทั้งหมดกว่า 30.852 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ไม่สามารถสูบนำไปผลิตน้ำประปาได้ ทางโครงการชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ต้องใช้วิธีสูบดึงน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย อ.กระสัง ซึ่งยังมีน้ำอยู่ประมาณกว่า 6 ล้านลูกบาศก์เมตร มาใช้เป็นน้ำดิบผลิตประปาหล่อเลี้ยงตัวเมืองบุรีรัมย์ วันละ 20,000 ลูกบาศก์เมตร จากปกติที่ต้องใช้น้ำดิบผลิตประปา วันละ 28,000 ลูกบาศก์เมตร ล่าสุด ทางการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบุรีรัมย์ ได้มีการปรับลดแรงดันการจ่ายน้ำลง 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา จนกว่าแหล่งน้ำดิบทั้ง 2 อ่าง จะมีน้ำเพียงพอ ทั้งนี้ จากการปรับลดแรงดันน้ำอาจทำให้ประปาไหลอ่อนหรือไม่ไหลเป็นเวลา ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลทำให้น้ำประปาในเขตเมืองบุรีรัมย์ ไม่ไหลมา 3-4 วันแล้ว ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบไม่มีน้ำใช้ ต้องซื้อน้ำใช้กัน ซึ่งต่างได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำโดยด่วน