ปัญหาไฟป่าภาคเหนือในปีนี้ที่สาหัสสากรรจ์ในรอบ 30 ปี คุณภาพชีวิตของผู้คนที่ต้องทนผจญกับฝุ่นควัน มลพิษ รวมทั้งเป็นข่าวเศร้าคร่าชีวิตจิตอาสาดับไฟป่าที่ปีนี้ต้องสูญเสียถึง 7 คน ท่ามกลางการตั้งคำถามมากมาย ถึงไฟปริศนา การจุดติดของไฟที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่จบไม่สิ้น ทั้งยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์การแก้ปัญหาที่ล้มเหลวซ้ำซากของภาครัฐ นายเดโช ไชยทัพ ผอ.มูลนิธิการพัฒนาที่ยั่งยืน และประธานคณะทำงานด้านป่าไม้และที่ดินในพื้นที่ป่า ภายใต้คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่แบบบูรณาการและมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "เดโช ไชยทัพ" ระบุถึงข้อมูลใหม่ที่ได้จากเวทีสรุปบทเรียนไฟป่าภาคพลเรือน ถึงกลวิธีในการจุดไฟป่าที่มีพัฒนาการ ดัดแปลงใช้ที่หนีบผ้าพลาสติกมาต่อชนวนขั้วบวกขั้วลบ เพื่อจุดประกายไฟต่อเชื่อมกับระเบิดปิงปอง โดยว่า “มีอะไรคั่นกลางไว้ก่อน เมื่อเจอความร้อนจัดและมันจะละลาย ให้ขั้วบวกขั้วลบเจอกัน เชื่อมกับถ่านไฟฉายไว้ ให้ระเบิดปิงปองขนาดเล็กทำงาน (ประยุกต์ให้เป็นแบบไร้เสียงด้วย) ไฟป่าจึงลุกลามไหมป่าอย่างรุนแรง ไม่ใช่ความเผลอเรอพลั้งเผลอ ไม่ใช่พรานป่า แต่มันคืออะไร ใครทำ ทำเพื่ออะไร... มันไปไกลกว่าธูปและก้านไม้ขีดแล้วครับ เขาวางในตำแหน่งที่ยากต่อการเข้าถึง 4 จุดให้เกิดการไหม้ไล่เรียงกัน ให้การเกิดไฟแต่ละจุด ห่างราว 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ไม่ใช่พรานป่า ไม่ใช่ความพลั้งเผลอ ไม่ใช่ไฟจากการเกษตรหลุดเข้าป่า ไม่ใช่ความโกรธแค้นเล็กๆ แต่นี้คือไฟป่าจากมืออาชีพ ที่เรากำลังสงสัยกันมากๆ มันมาจากไหน.. ทำใครเพื่ออะไร ปล: เวทีสรุปบทเรียนไฟป่าภาคพลเมือง”