อดีตอธิบดีกรมสรรพสามิตบินด่วนลงตรัง ร่วมพิธีรดน้ำศพ “พุฒ ล้อเหล็ก” ล่าสุดรับตำแหน่งเทรนเนอร์ให้กับค่ายมวยลูกเจ้าพ่อโรงต้มมวกเหล็ก บ่นเสียดายที่ต้องสูญเสียบุคคลากรวงการมวยไทย
วันที่ 4 มิถุนายน 2563 ที่สมาคมชาวย่านตาขาว เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายทวี พิพัฒกุล หรือ “พุฒ ล้อเหล็ก” วัย 67 ปี อดีตยอดมวยไทย ที่เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลว หลังจากที่ได้เข้ารับการรักษาตัวด้วยการผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่) จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 1 มิถุนายน เป็นการสูญเสียและปิดตำนานยอดอดีตนักมวยไทยอีกคนหนึ่ง
ทั้งนี้บรรยากาศพิธีรดน้ำศพมีนายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย อดีตอธิบดีกรมสรรพสามิต เจ้าของค่ายมวยลูกเจ้าพ่อโรงต้ม อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่ง พุฒ ล้อเหล็ก ดูแลในฐานะเทรนเนอร์ให้กับนักมวยภายในค่าย พร้อมทั้งบรรดาญาติพี่น้อง ข้าราชการ เพื่อนพ้องในวงการมวยและชาวบ้านย่านตาขาวร่วมพิธีบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยและเจ้าของค่ายมวยลูกเจ้าพ่อโรงต้ม อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องเศร้าที่พุฒ ล้อเหล็กได้เสียชีวิต ถือว่าเป็นเรื่องเศร้าของวงการมวยของประเทศไทย ซึ่งนอกจากส่วนตัวมีความสนิทสนมกันทำให้วงการมวยขาดและได้สูญเสียบุคคลหรือต้องเรียกว่าตำนานยอดมวย ไทย โดยส่วนตัวเสียความรู้สึกทำให้วงการมวยเองก็เสียบุคคลซึ่งเป็นที่รักมีความมุ่งมั่นในมวยไทย ซึ่งพี่พุฒเองกับผมก็รู้จักกันมานานแล้ว ซึ่งบั้นปลายชีวิตได้มาเป็นหัวเป็นเทรนเนอร์ให้กับค่ายมวยลูกเจ้าพ่อโรงต้ม ก็ได้มีครูที่คอยดูแลคอยส่งเสริมให้น้องๆนักเรียนนักศึกษามาเรียนรู้แม้ไม้มวยไทย ซึ่งครูพุฒ ถือเป็นอัจฉริยะของมวยไทย แต่ที่ทำขึ้นมาเพื่อเน้นสอนให้กับลูกหลานเยาวชน สอนฟรี มีคนมาเรียนเยอะพอเสียท่านไปก็ถือว่าน่าเสียดายที่ได้สูญเสียพุฒ ล้อเหล็กไป
ด้านนายสุรินทร์ เศวตะดุล สจ.ย่านตาขาว กล่าวว่า ตนเองกับพุฒ ล้อเหล็กเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆเพราะในช่วงนั้นเราจะเป็นเด็กวัดส้มเฟือง(วัดควนวิไล)และเราก็เริ่มเรียนมวยกับครูมวยที่ชื่อสวัสดิ์ แสงสุวรรณ หลังจากนั้นพุฒ ล้อเหล็ก ก็เริ่มชกมวยในละแวกบ้านนี้ประมาณไม่กี่ครั้งก็ได้เดินทางไปกทม.ด้วยกระเป๋า 1 ใบพร้อมกับถุงกระดาษ พุฒ ล้อเหล็ก ก็ได้บอกตนเองว่าจะไปชกมวย ตนเองก็บอกว่าชกมวยต้องให้ดังถึงจะได้กลับบ้านถ้าไม่ดังไม่ต้องกลับมา หลังจากนั้นตนเองก็ติดตามเพื่อนตลอด ตั้งแต่ตอนชกกับมังกรดำเป็นต้นมาและได้ซื้อหนังสือมวยสะสมไว้ตลอดเพื่อติดตามเพื่อนรัก
“ความสัมพันธ์ของกับพุฒ ล้อเหล็ก ยาวนานมาก ทุกเรื่องอยู่ในใจตลอด ความเป็นเพื่อนรักมีความเสียใจอย่างยิ่งเพราะว่าอาการป่วยของพุฒตนเองก็ทราบมาตลอดรู้ว่าจะเข้าไปผ่าตัดที่รพธรรมศาสตรเฉลิมพระเกียรติรังสิตในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่พุฒ ล้อเหล็ก ก็คิดถึงบ้าน อยากจะกลับมาดูทุเรียนประมาณ 10 กว่าต้นเป็นห่วงทุเรียนที่บ้าน แล้วสุดท้ายก็ทราบข่าวว่า พุฒ ล้อเหล็กไม่สบายมาก ก็ได้มีการสอบถามลูกสาวตลอด ว่าพ่อเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นก็ทราบข่าวอีกทีจากลูกสาวว่าพ่อเสียชีวิตแล้วตนเองก็รู้สึกเสียใจมาก” นายสุรินทร์ กล่าว
วันที่ 4 มิถุนายน 2563 ที่สมาคมชาวย่านตาขาว เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายทวี พิพัฒกุล หรือ “พุฒ ล้อเหล็ก” วัย 67 ปี อดีตยอดมวยไทย ที่เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลว หลังจากที่ได้เข้ารับการรักษาตัวด้วยการผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่) จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 1 มิถุนายน เป็นการสูญเสียและปิดตำนานยอดอดีตนักมวยไทยอีกคนหนึ่ง
ทั้งนี้บรรยากาศพิธีรดน้ำศพมีนายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย อดีตอธิบดีกรมสรรพสามิต เจ้าของค่ายมวยลูกเจ้าพ่อโรงต้ม อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่ง พุฒ ล้อเหล็ก ดูแลในฐานะเทรนเนอร์ให้กับนักมวยภายในค่าย พร้อมทั้งบรรดาญาติพี่น้อง ข้าราชการ เพื่อนพ้องในวงการมวยและชาวบ้านย่านตาขาวร่วมพิธีบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยและเจ้าของค่ายมวยลูกเจ้าพ่อโรงต้ม อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องเศร้าที่พุฒ ล้อเหล็กได้เสียชีวิต ถือว่าเป็นเรื่องเศร้าของวงการมวยของประเทศไทย ซึ่งนอกจากส่วนตัวมีความสนิทสนมกันทำให้วงการมวยขาดและได้สูญเสียบุคคลหรือต้องเรียกว่าตำนานยอดมวย ไทย โดยส่วนตัวเสียความรู้สึกทำให้วงการมวยเองก็เสียบุคคลซึ่งเป็นที่รักมีความมุ่งมั่นในมวยไทย ซึ่งพี่พุฒเองกับผมก็รู้จักกันมานานแล้ว ซึ่งบั้นปลายชีวิตได้มาเป็นหัวเป็นเทรนเนอร์ให้กับค่ายมวยลูกเจ้าพ่อโรงต้ม ก็ได้มีครูที่คอยดูแลคอยส่งเสริมให้น้องๆนักเรียนนักศึกษามาเรียนรู้แม้ไม้มวยไทย ซึ่งครูพุฒ ถือเป็นอัจฉริยะของมวยไทย แต่ที่ทำขึ้นมาเพื่อเน้นสอนให้กับลูกหลานเยาวชน สอนฟรี มีคนมาเรียนเยอะพอเสียท่านไปก็ถือว่าน่าเสียดายที่ได้สูญเสียพุฒ ล้อเหล็กไป
ด้านนายสุรินทร์ เศวตะดุล สจ.ย่านตาขาว กล่าวว่า ตนเองกับพุฒ ล้อเหล็กเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆเพราะในช่วงนั้นเราจะเป็นเด็กวัดส้มเฟือง(วัดควนวิไล)และเราก็เริ่มเรียนมวยกับครูมวยที่ชื่อสวัสดิ์ แสงสุวรรณ หลังจากนั้นพุฒ ล้อเหล็ก ก็เริ่มชกมวยในละแวกบ้านนี้ประมาณไม่กี่ครั้งก็ได้เดินทางไปกทม.ด้วยกระเป๋า 1 ใบพร้อมกับถุงกระดาษ พุฒ ล้อเหล็ก ก็ได้บอกตนเองว่าจะไปชกมวย ตนเองก็บอกว่าชกมวยต้องให้ดังถึงจะได้กลับบ้านถ้าไม่ดังไม่ต้องกลับมา หลังจากนั้นตนเองก็ติดตามเพื่อนตลอด ตั้งแต่ตอนชกกับมังกรดำเป็นต้นมาและได้ซื้อหนังสือมวยสะสมไว้ตลอดเพื่อติดตามเพื่อนรัก
“ความสัมพันธ์ของกับพุฒ ล้อเหล็ก ยาวนานมาก ทุกเรื่องอยู่ในใจตลอด ความเป็นเพื่อนรักมีความเสียใจอย่างยิ่งเพราะว่าอาการป่วยของพุฒตนเองก็ทราบมาตลอดรู้ว่าจะเข้าไปผ่าตัดที่รพธรรมศาสตรเฉลิมพระเกียรติรังสิตในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่พุฒ ล้อเหล็ก ก็คิดถึงบ้าน อยากจะกลับมาดูทุเรียนประมาณ 10 กว่าต้นเป็นห่วงทุเรียนที่บ้าน แล้วสุดท้ายก็ทราบข่าวว่า พุฒ ล้อเหล็กไม่สบายมาก ก็ได้มีการสอบถามลูกสาวตลอด ว่าพ่อเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นก็ทราบข่าวอีกทีจากลูกสาวว่าพ่อเสียชีวิตแล้วตนเองก็รู้สึกเสียใจมาก” นายสุรินทร์ กล่าว