"ททท."ถก"คลัง" คลอด 2 แพคเกจกระตุ้นเที่ยวไทย พร้อมแจก 3 พัน "พรายพล"นักวิชาการอิสระ กังวลเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวพาเชื้อพุ่ง ชี้ถึงเวลาผ่อนปรนเฟส 4 พื้นที่เสี่ยงต้นเดือน ก.ค.นี้ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.63 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภายหลังการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง ททท.ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ 2 แพคเกจ ในระยะเวลาดำเนินการ 4 เดือน ระหว่างเดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2563 แต่รายละเอียดของวงเงินยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งแพคเกจแรกคือ แพคเกจเที่ยวฟรี เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนอีกแพคเกจจะเป็นรัฐบาลจ่ายให้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินให้ที่เท่าใด อาจอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท หรือ 3,000 บาทต่อคน หรือวงเงินรวมประมาณ 8,000 ล้านบาท หรือ 12,000 ล้านบาท โดยจากนี้จะจัดทำรายละเอียด เพื่อเตรียมนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าต่อไป สำหรับ 2 แพคเกจ ที่จะใช้กระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่ 1.กำลังใจ เพื่อตอบแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแนวหน้าในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาทิ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1,200,000 คน โดยจะสนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงาน (3 วัน 2 คืน) ผ่านบริษัทนำเที่ยวในประเทศ 2.เที่ยวปันสุข โดยจะให้เป็นบัตรกำนัลดิจิทัล สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดเท่านั้น โดยจะให้กับประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 4,000,000 คน ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ ซื้อบัตรกำนัลดังกล่าว โดยสามารถใช้เป็นส่วนลดในการเข้าพักที่เข้าร่วมกับโครงการ ซึ่งวิธีใช้บัตรกำนัลดังกล่าว สามารถนำไปแสดงกับที่พักก่อน เมื่อเช็กอินห้องพักแล้ว รัฐจะโอนเงินคืนให้กับประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้จ่ายในโรงแรม อาทิ ห้องพัก ห้องอาหาร สปา และร้านขายสินค้าที่ระลึกต่อไป ด้าน นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยว่า การผ่อนปรนตั้งแต่ระยะที่ 1 จะพบว่า รัฐบาลยังควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศได้ดี แต่สิ่งที่ต้องห่วงในอนาคตคือ เมื่อมีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยว หรือสายการบินสามารถให้บริการได้ตามปกติจะทำให้ยอดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่ และในระยะแรกอาจต้องเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงต่อโควิด-19น้อยที่สุดก่อน เพื่อความปลอดภัยของคนในชาติ สำหรับการผ่อนปรนกิจการหรือกิจกรรมระยะที่ 4 ซึ่งอาจมีการเปิดสถานที่เสี่ยง เช่น สนามมวย สถานบันเทิง ส่วนตัวมองว่าไม่เร็วเกินไป เมื่อพิจารณาตามตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และการผ่อนปรนน่าจะเกิดขึ้นในต้นเดือนก.ค.63 ซึ่งขณะนั้นสถานการณ์คงจะดีขึ้นเรื่อยๆ