เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นชายวัย 80 มีโรคประจำตัว เข้าผ่าตัดสะโพกและติดเชื้อจากผู้ป่วย ขณะติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มกลับจากซาอุ ซึ่งในกรุ๊ปเดียวกันติดเชื้อ 8 ราย กทม.ยังแชมป์ผู้ป่วยสะสมสูงสุด เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.63 เวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า ล่าสุด ข้อมูลวันนี้ ไทยมีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม1 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,083 ราย วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย หายป่วยกลับบ้านวันนี้มีรายงาน 1 ราย รวมยอดรักษาหายสะสม 2,966 ราย คิดเป็น 96.20% และยังรักษาอยู่ในรพ.59 ราย สำหรับผู้เสียชีวิต 1 รายนั้น เป็นชายอายุ 80 ปี มีโรคประจำตัว หอบหืด เสียชีวิตจากปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับการรักษาตัวผ่าตัดสะโพกตั้งแต่ 28 เม.ย. ไม่มีอาการตามนิยาม PUI ผ่าตัดสะโพกแล้วรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วย แต่มีการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน (โดยลูกสาวและลูกเขยก็ติดเชื้อจากการเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาลด้วย) เสียชีวิต 1 มิ.ย.63 ขณะที่ผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย นั้น อยู่ใน State Quarantine โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine 1 ราย โดยกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย (มีผู้ร่วมเดินทางด้วยกัน 39 ราย ติดเชื้อรวม 8 ราย) เป็นชายไทย อายุ 32 ปี อาชีพนักศึกษา ผ่านทางด่านปาดังเบซาร์ เข้าไทย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เข้า State Quarantine ใน จ.สงขลา ผลตรวจ วันที่ 25 พฤษภาคม ไม่พบเชื้อ เริ่มป่วยวันที่ 30 พฤษภาคม ด้วยอาการไข้ 37.5 องศาเซลเซียส มีน้ำมูก ผลตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 31 พฤษภาคม ผลตรวจพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา ทั้งนี้ สัดส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแบ่งตามพื้นที่ ดังนี้ กรุงเทพฯ และนนทบุรี 1,723 ราย / ภาคเหนือ 95 ราย / ภาคกลาง 414 ราย / ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย / ภาคใต้ 740 ราย นอกจากนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้รายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในสถานกักกันโรคของรัฐที่ส่วนกลางและจังหวัด Stage and Local Quarantine Sites ประจำวันที่ 2 มิถุนายน 2563 พบผู้ป่วยแล้ว 146 ราย เป็นเพศชายมากว่าเพศหญิง คือ ชาย 126 ราย หญิง 20 ราย อายุเฉลี่ย 39 ปี ต่ำสุด 15 ปี สูงสุด 77 ปี สัญชาติไทย 98.63% อเมริกา 0.68% อังกฤษ 0.68% อยู่ใน สงขลา 23 ราย สตูล 18 ราย กทม. 30 ราย ปัตตานี 13 ราย ยะลา 9 ราย ชลบุรี 27 ราย นราธิวาส 9 ราย กระบี่ 3 ราย สมุทรปราการ 14 ราย รวม 146 ราย