สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาว ถึงกรณีการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงตามเมืองในรัฐต่างๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่นว่า หากทางการท้องถิ่น ระดับเมือง หรือระดับรัฐ ไม่ยอมดำเนินมาตรการที่จำเป็น ทางรัฐบาลกลางภายใต้การนำของเขา ก็จะส่งกำลังทหาร (Military) พร้อมอาวุธสงครามครบมือ ไปแก้ปัญหาการชุมนุมประท้วงตามเมืองในรัฐต่างๆ ทันที รายงานข่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงถึงประชาชนทั่วประเทศข้างต้น ใช้เวลานานเกือบ 7 นาที ในขณะที่กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่ปักหลักรวมตัวบริเวณด้านนอกของทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศ พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชุมนุมประท้วงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วยว่า กำลังที่จะส่งเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ของทางการสหรัฐฯ ไปหยุดยั้งการก่อจลาจล การปล้นสะดม การทำลายทรัพย์สินและสถานที่ต่างๆ รวมถึงการทำร้ายผู้คน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อย่างป่าเถื่อน โดยเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นความอัปยศอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้กล่าวถึงบรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆ ด้วยว่า ขอให้ใช้กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์บนท้องถนนให้อยู่ในความสงบโดยเร็ว หากทางการของเมือง หรือรัฐใด ไม่ยอมดำเนินมาตรการที่จำเป็นข้างต้นในอันที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพลเมือง ทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ภายใต้การนำของตน ก็จะส่งกำลังทหาร เข้าไปแก้ปัญหาแทนอย่างเร่งด่วน ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาลข้างต้น ก็เป็นไปตามบทบัญญัติของ “กฎหมายว่าด้วยการจัดการกับปัญหาการก่อจลาจล” ที่ประกาศบังคับใช้เมื่อปี ค.ศ. 1807 (พ.ศ. 2350) ที่ให้อำนาจแก่ประธานาธิบดี ในการส่งทหารเข้าไปปราบปรามการก่อจลาจลของชาวเมืองในรัฐต่างๆ ได้ ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ จะกล่าวทิ้งท้ายด้วยการประณามต่อเหตุการณ์ความไม่สงบที่บังเกิดขึ้นด้วย รายงานข่าวเผยว่า ภายหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงดังกล่าว ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เดินทางไปที่โบสถ์เซนต์จอห์น ซึ่งมีอายุเก่าแก่ราว 200 ปี ที่อยู่ใกล้กับทำเนียบขาว โดยโบสถ์ถูกพ่นสีถ้อยคำ และถูกไฟไหม้จากผู้ก่อความไม่สงบจนได้รับความเสียหายบางส่วน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ไปยืนถือคัมภีร์ไบเบิลให้ช่างภาพได้บันทึกภาพ พร้อมกับมีข้อความว่า เรามีประเทศที่ยิ่งใหญ่ ขณะที่ ปฏิกริยาจากบรรดาฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้แก่ เหล่าผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือเพนตากอน แสดงความวิตกกังวลต่อถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ข้างต้น พร้อมทั้งแสดงทรรศนะว่า สถานการณ์ชุมนุมประท้วงยังไม่ถึงกับต้องใช้กำลังทหาร (Military) ตราบใดที่ทางบรรดาผู้ว่าการรัฐร้องขอความช่วยเหลือต่อรัฐบาลกลาง ทางด้าน นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ตำหนิถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่สั่งให้กองทัพมาต่อสู้กับพลเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้กองทัพผลักดันจู่โจมกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบขาว เพียงเพื่อให้เขาไปถ่ายรูปที่โบสถ์เท่านั้น