เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า การอภิปราย 3 วันที่ผ่านมาที่บอกว่ารัฐบาลทำเศรษฐกิจพังจนต้องกู้เงินนั้น ไม่จริง ถ้ามองด้วยความเป็นธรรม เพราะรัฐบาลสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยืนยันรัฐบาลทำเต็มที่เรื่องการดูแลเศรษฐกิจ  การที่เรากู้ได้ในวันนี้ เพราะหนี้สาธารณะยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ 40 เปอร์เซ็นต์  ถ้าไม่มีสถานการณ์โควิด เราคงไม่ต้องมากู้เงิน และเราก็กู้เพียง 1 ล้านล้านบาท แต่หลายคนชอบพูดว่า กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท พูดย้ำหลายครั้งว่า อีก 9 แสนล้านบาทไม่ได้กู้ แต่ก็ไม่รู้ว่า ไม่ฟังหรือไม่สนใจจะฟัง ยืนยันรัฐบาล กู้แค่ 1 ล้านล้านบาท ยืนยันระบบการเงินการคลังประเทศยังเข้มแข็งมาก กองทุนสำรองระหว่างประเทศสูง ตนอาจเก่งไม่เท่าพวกท่านที่ทำเรื่องเศรษฐกิจมาก่อน แต่ตนมีทีมรัฐมนตรี และรองนายกฯคอยดูแล ตนจริงใจแก้ปัญหา ไม่แก้ปัญหาแบบมักง่ายเราจำเป็นต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหาในสถานการณ์พิเศษ ถ้าค้านทุกเรื่องก็ไปไม่ได้ ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือ ถ้าทำอยู่แบบนี้ก็เหมือนวัวพันหลัก ขอให้เดินหน้าไปด้วยกัน                   พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการทุจริตนั้น อะไรคือการทุจริต ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่แค่คำบอกเล่า คำบอกต่อในโซเชียล ต้องมีการตรวจสอบ มีกระบวนการศาลตัดสิน ส่วนใครหนี ใครถูกขังเป็นเรื่องของบุคคล  ถ้ามาบอกว่ารัฐบาลทุจริต อยากถามว่ารู้ได้อย่างไรว่ารัฐบาลจะทุจริต แสดงว่าก่อนหน้านี้มีการทุจริตใช่หรือไม่ การทุจริตต้องแก้จากข้างล่างขึ้นมา ใครมีปัญหาทุจริตต้องถูกดำเนินคดี มีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ป.ป.ช. ป.ป.ท.คอยจับตาดูอยู่ ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องคดีความ ยืนยันรัฐบาลมีความตั้งใจแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างจริงจัง ได้ย้ำว่า อย่าให้เกิดการทุจริตโดยเด็ดขาด เพราะสิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้คือ ความโปร่งใส ส่วนเรื่องการให้ประชาชนลงทะเบียนข้อมูลต่างๆนั้น ถามว่าใครอยากไปล้วงข้อมูล ไม่อยากไปล้วงข้อมูลทางโทรศัพท์ใคร คนเรามีจิตสำนึก ความละอายเกรงกลัวต่อการทำบาป ขอให้ทุกคนมองประเทศเป็นหลัก รัฐบาลจะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด