วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.สุทิน ทัดรัตน์ สว.สส.สภ.เมืองประจวบฯและชุดสืบสวนนำตัว นายชาญณรงค์ หรือเล็ก ขาวคง อายุ 28 ปี ลูกจ้างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อยู่บ้านเลขที่ 55 ถ.นารอง เขตเทศบาลเมืองประจวบฯ และ นายนัตติพงษ์ หรือหนุน  ถนอมกล่อม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/1 ถ.สุขจิต ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบฯ  ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีลักทรัพย์จำนวน 4 จุด ที่บ้านพักของอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบฯที่ถนนสุขจิต บ้านพัก 2 หลังที่ถนนประจวบศิริ ของข้าราชการบำนาญ สำนักงานขนส่งจังหวัด และ บ้านพักของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองฯ หลังก่อเหตุได้ทรัพย์สินไปหลายรายการประกอบด้วยพระเครื่อง พระบูชา สุราต่างประเทศและเครื่องดนตรีมูลค่าหลายแสนบาท พ.ต.อ.ธนากร กล่าวว่าระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมามีประชาชนหลายรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กรณีถูกโจรกรรมทรัพย์สิน จึงสั่งการชุดสืบสวนหาตัวคนร้ายจนทราบว่าคนร้ายได้นำพระเครื่องบูชาหลวงพ่อโสธร ปี 2509 ที่ถูกโจรกรรมไปจำหน่ายให้แผงพระแห่งหนึ่งในราคา 3,000 บาท ขณะที่ในท้องตลาดมีราคาซื้อขายมากกว่า 1 แสนบาท ทำให้ทราบเบาะแสก่อนรวบรวมหลักฐานขอหมายศาลเข้าค้นบ้านพักผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยขณะเข้าค้นที่บ้านพักของนายชาญณรงค์ เกิดเห็นตำรวจเสียก่อนจึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีต้องใช้รถสายตรวจตามจับตัวจนได้นำตัวไปค้นบ้านพักพบทรัพย์สินที่โจรกรรมมาเป็นจำนวนมากพร้อมกัญชาแห้งอีก 300 กรัม สอบสวนนายชาญณรงค์ให้รับสารภาพทำงานประจำเงินเดือนไม่พอใช้ ขณะที่ภรรยาเปิดร้ายขายของชำแต่ขายไม่ดีช่วงโควิด-19 จึงชวนนายนัตติพงษ์เพื่อนสนิทขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนลักทรัพย์ตอนกลางคืน โดยเลือกเหยื่อบ้านพักหลังใหญ่ที่ไม่มีคนอาศัยงัดบ้านเข้าไป จากนั้นใช้รถซาเล้งบรรทุกทรัพย์สินที่ขโมยมาได้นำออกขายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนสุราต่างประเทศนำไปเลี้ยงเพื่อนฝูงที่ทำงานด้วยกันจนถูกจับได้ จากนั้นนำผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะพบฉี่เป็นสีม่วง ก่อนนำตัวทั้งคู่พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.