สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัทโซเชียลมีเดียของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก พินเทอเรสต์ และสแนป ต่างก็ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะควบคุมหรืออาจปิดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง ราคาหุ้นทวิตเตอร์ ดิ่งลง 2.78% ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 0.87% หุ้นสแนป ปรับตัวลง 0.76% และหุ้นพินเทอเรสต์ ลดลง 0.42% ในช่วงเช้านี้ เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์เตรียมลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อกำกับดูแลบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยจะยกระดับการกำกับดูแลโซเชียลมีเดียให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และหากแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ปฏิบัติตามแล้วก็จะต้องถูกสั่งให้ปิดตัวลง ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของปธน.ทรัมป์เกิดขึ้นเนื่องจากไม่พอใจการกระทำของทวิตเตอร์ หลังทวิตเตอร์ได้ขึ้นแถบข้อความเตือนเกี่ยวกับข่าวปลอมหรือ "เฟคนิวส์" ใต้ทวีตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวน 2 ทวีต ซึ่งถือเป็นมาตรการใหม่ของโซเชียลมีเดียชื่อดังที่ต้องการตรวจสอบ และป้องกันการแพร่กระจายข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องต่างๆ ทวิตเตอร์ได้ขึ้นแถบข้อความเตือนทวีตของปธน.ทรัมป์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทางไปรษณีย์ ซึ่งปธน.ทรัมป์ระบุในทวีตว่า เป็นกระบวนการที่ทุจริตได้ง่าย และจะบ่อนทำลายระบบเลือกตั้งของสหรัฐ ฟีเจอร์ดังกล่าวได้แสดงข้อความที่ว่า "Get the facts about mail-in ballots" หรือ "อ่านข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้งทางไปรษณีย์" เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถคลิกไปอ่านบทความที่มีเนื้อหาถูกต้อง