03.33 น. เช้ามืดวันพฤหัสฯ 28 พ.ค.นี้ กับภารกิจส่งนักบินอวกาศของนาซาขึ้นสถานีอวกาศในรอบ 9 ปี ด้วยยานอวกาศของบริษัทอภิมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ที่มีความฝันสร้างธุรกิจท่องอวกาศ ท่ามกลางความหวังของสหรัฐที่จะชิงตลาดอวกาศที่ผูกขาดโดยรัสเซีย สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ “นาซาจับมือ SpaceX ส่งนักบินอวกาศขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติจากแผ่นดินอเมริกาครั้งแรกในรอบ 9 ปี องค์การบริหารการบินอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) กับบริษัท SpaceX บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศของสหรัฐฯ ร่วมมือกันส่งนักบินอวกาศชุดแรกขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ ภารกิจนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ใช้จรวดและยานอวกาศจากภาคเอกชน แทนจรวดและยานจากองค์การอวกาศของรัฐบาล และถือเป็นการกลับมาส่งนักบินอวกาศชาวสหรัฐฯ จากแผ่นดินมาตุภูมิสู่สถานีอวกาศนานาชาติครั้งแรกในรอบ 9 ปี ภารกิจครั้งนี้มีชื่อว่า Demo-2 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Crew Program มีนักบินอวกาศชาวสหรัฐฯ 2 คน คือ โรเบิร์ต เบห์นเคิน และดักลาส เฮอร์ลีย์ ไปกับยาน Crew Dragon ที่ติดบนยอดจรวดฟัลคอน 9 (Falcon 9) และกำหนดปล่อยขึ้นสู่อวกาศในช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2563 เวลา 03:33 น. (ตามเวลาประเทศไทย) จากฐานปล่อยจรวด 39A ของศูนย์อวกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา นักบินอวกาศทั้งสองคนนี้จะขึ้นไปปฏิบัติภารกิจต่อในสถานีอวกาศนานาชาติ ร่วมกับทีมนักบินอวกาศชุด Expedition 63 ที่ประจำสถานีอวกาศแห่งนี้อยู่แล้ว คาดว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจและกลับสู่พื้นโลกไว้ว่าไม่เกินปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 ภารกิจ Demo-2 จะช่วยปูพื้นฐานให้กับทางบริษัท SpaceX ทดสอบระบบการส่งมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศ ตั้งแต่ฐานยิงจรวด ตัวจรวด ตัวยานบรรทุกนักบินอวกาศ และขีดความสามารถการปฏิบัติภารกิจในโครงการอวกาศ และยังเป็นครั้งแรกที่นักบินอวกาศของทาง NASA จะได้ทดสอบและฝึกใช้งานระบบยานอวกาศภาคเอกชน ภารกิจ Demo-2 ถือเป็นก้าวสำคัญก้าวต่อไปในวงการอวกาศสหรัฐฯ เนื่องจากการนำนักบินอวกาศขึ้นไปปฏิบัติภารกิจในอวกาศเที่ยวล่าสุดที่ใช้จรวดและยานของสหรัฐฯ เป็นภารกิจ STS-135 ของยานขนส่งอวกาศแอตแลนติส เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 นับเป็นภารกิจครั้งสุดท้ายในการปฏิบัติงานของโครงการยานขนส่งอวกาศ (Space Shuttle) ของสหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี และดักลาส เฮอร์ลีย์ นักบินอวกาศในโครงการ Demo-2 ก็เคยเข้าร่วมภารกิจ STS-135 ด้วย หลังจากนั้น สหรัฐฯ ต้องร่วมมือกับรัสเซียมากขึ้น จากการใช้ยานอวกาศและจรวดโซยุซ (Soyuz) พานักบินอวกาศชาวสหรัฐฯ ไปปฏิบัติภารกิจในสถานีอวกาศนานาชาติ หากโครงการ Commercial Crew Program สำเร็จ จะทำให้วงการอวกาศสหรัฐฯ พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ลดการพึ่งพาทางรัสเซีย และเพิ่มบทบาทภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการอวกาศของประเทศ อีกทั้งสหรัฐฯ สามารถกลับมาเป็นคู่แข่งของรัสเซีย ในการเป็นตัวเลือกเพื่อพามนุษย์ขึ้นสู่อวกาศ ทั้งจากกลุ่มประเทศในยุโรป เอเชีย หรือแม้แต่การท่องเที่ยวอวกาศ (Space tourism) ของมหาเศรษฐี ที่กำลังผูกขาดโดยรัสเซียในปัจจุบัน ร่วมติดตามและนับถอยหลังภารกิจครั้งนี้ ได้ที่ https://www.nasa.gov/ --------------------------------- เรียบเรียง : พิสิฏฐ นิธิยานันท์ - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ชำนาญการ สดร. อ้างอิง : https://www.nasa.gov/specials/dm2/?fbclid=IwAR1upl1zt9kBJ2-dM95-7BydzHxc... ภาพจาก https://www.nasa.gov/specials/dm2/?fbclid=IwAR1upl1zt9kBJ2-dM95-7BydzHxc...