บุคลากรทางการแพทย์ และสหวิชาชีพ รพ.ขอนแก่น มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ นพ. ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น หลังมีบัตรสนเท่ห์กล่าวหาว่ารับเงินบริจาค 5 เปอร์เซ็นต์จากบริษัทยา และถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งมองว่าไม่มีความเป็นธรรมและไม่โปร่งใส
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 พ.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 4 โรงพยาบาลขอนแก่น ได้มีองค์กรแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และสหวิชาชีพโรงพยาบาลขอนแก่นกว่า 500 คน พร้อมใจกันนำดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้กับ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ภายหลังจากทางคณะกรรมการบริหารและบุคลากรโรงพยาบาลเข้ารับฟังข้อเท็จจริงและการเปิดใจจากทาง นพ.ชาญชัย ถึงกรณีที่มีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงถึงขั้นต้องออกจากราชการ ซึ่งมีผู้ร้องเรียนโดยเขียนบัตรสนเท่ห์ ไม่ระบุชื่อ โดยใช้สรรพนามว่า ข้าราชการเกษียณ โรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวหาว่า นพ.ชาญชัย ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและระเบียบของทางราชการ ส่งไปยังกระทรวงสาธารณสุข โดยมีประเด็นหลักในการร้องเรียนคือ เรียกรับเงินจากบริษัทยาและร้านค้า ร้อยละ 5 เข้าบัญชีกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น ในช่วงเดือนเม.ย.2561 ถึงเดือน ต.ค.2561 ซึ่ง นพ.ชาญชัย จันทร์วรขัยกุล ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงแสดงความบริสุทธิ์ในประเด็นดังกล่าวที่ถูกร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมพยานหลักฐานต่างๆ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2563 เรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่าทางรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังได้มีหนังสือเลขที่ สธ.532/2563 ลงวันที่ 7 พ.ค.2563 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นพ.ชาญชัย อีกครั้ง ทำให้ทางองค์กรแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และสหวิชาชีพโรงพยาบาลขอนแก่นได้มีความสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า ในขบวนการสอบสวนหาข้อเท็จจริง รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง มีความซ้ำซ้อน ตลอดจนมีพฤติการณ์น่ากังขาและไม่เป็นธรรมอยู่หลายประเด็น
โดยบรรยากาศในห้องประชุมนั้น แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ส่งเสียงให้กำลังใจ นพ.ชาญชัย อย่างล้นหลาม ซึ่งมีหลายคนต้องการที่จะกอดให้กำลังใจแต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากต้องเว้นระยะห่างทางสังคมตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้บุคลากรทางการแพทย์บางหลายคนต่างน้ำตาคลอพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้คนดีมีที่ยืน และขอให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความยุติธรรมและโปร่งใสไม่ให้เกิดความแครงใจ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการตรวจสอบว่าอาจจะมีขบวนการล้มล้างอยู่เบื้องหลัง เพราะบัตรสนเทห์ที่ไม่มีชื่อผู้ร้องใบเดียวเหตุใดจึงต้องถึงขั้นตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงได้
นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องที่แพทย์ พยาบาล และบุคลากร ซึ่งเปรียบเสมือนเพื่อนพี่น้อง ออกมาเคลื่อนไหวกันเองด้วยหัวใจ ไม่มีใครสั่งให้ทำ อาจเป็นเพราะทุกคนมองว่า การสืบสวนและการสอบวินัยร้ายแรงที่มาจากบัตรสนเท่ห์ร้องทุกข์นั้น ไม่เป็นธรรม เพราะโดยส่วนตัวก็เห็นว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากประเด็นข้อสงสัยต่างๆที่มีประมาณ 8-10 ข้อนั้นมีการชี้แจงตามกระบวนการเรียบร้อยแล้วมีเพียงประเด็นเดียวทียังไม่เรียบร้อย จนนำมาสู่การสอบวินัยร้ายแรงคือการรับบริจาคจากบริษัทฯยา ซึ่งในความเป็นจริงกรณีนี้ก็มีการชี้แจงไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เพราะทุกการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา โรงพยาบาลไม่ได้มีการร้องขอหรือเรียกรับ แต่เป็นการบริจาคด้วยความเต็มใจของผู้มีจิตศรัทธา และการรับบริจาคก็ดำเนินการตามระเบียบ เมื่อได้มาก็นำไปจัดสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดูแลประชาชนได้ ไม่มีสิ่งใดที่ผิดต่อระเบียบ
โดยขณะนี้หนังสือรายชื่อคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนั้นมาถึงรพ.ขอนแก่นแล้ว และเห็นรายชื่อของคณะกรรมการแล้วว่ามีใครบ้าง ซึ่งมีบางท่าน ที่เคยมีปัญหาจนตนถูกย้ายออกนอกพื้นที่มาแล้วเมื่อปี 2561 แต่ก็ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่รพ.ขอนแก่นดังเดิม ซึ่งในเรื่องรายชื่อดังกล่าวนั้น จะทำหนังสือคัดค้านการตั้งกรรมการสอบวินัย ที่มีรายชื่อกรรมการรายดังกล่าว ไปยังกระทรวงภายใน 17 วัน เพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวบุคคล เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ในเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ขัดขวางการตรวจสอบของคณะกรรมการ ในขณะเดียวกันก็เชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนก็น่าจะถูกย้ายออกนอกพื้นที่อีกครั้ง ซึ่งก็ยินดีและพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบตามขั้นตอนตามกระบวนการที่โปร่งใสและยุติธรรม
โดยบรรยากาศในห้องประชุมนั้น แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ส่งเสียงให้กำลังใจ นพ.ชาญชัย อย่างล้นหลาม ซึ่งมีหลายคนต้องการที่จะกอดให้กำลังใจแต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากต้องเว้นระยะห่างทางสังคมตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้บุคลากรทางการแพทย์บางหลายคนต่างน้ำตาคลอพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้คนดีมีที่ยืน และขอให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความยุติธรรมและโปร่งใสไม่ให้เกิดความแครงใจ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการตรวจสอบว่าอาจจะมีขบวนการล้มล้างอยู่เบื้องหลัง เพราะบัตรสนเทห์ที่ไม่มีชื่อผู้ร้องใบเดียวเหตุใดจึงต้องถึงขั้นตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงได้
นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องที่แพทย์ พยาบาล และบุคลากร ซึ่งเปรียบเสมือนเพื่อนพี่น้อง ออกมาเคลื่อนไหวกันเองด้วยหัวใจ ไม่มีใครสั่งให้ทำ อาจเป็นเพราะทุกคนมองว่า การสืบสวนและการสอบวินัยร้ายแรงที่มาจากบัตรสนเท่ห์ร้องทุกข์นั้น ไม่เป็นธรรม เพราะโดยส่วนตัวก็เห็นว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากประเด็นข้อสงสัยต่างๆที่มีประมาณ 8-10 ข้อนั้นมีการชี้แจงตามกระบวนการเรียบร้อยแล้วมีเพียงประเด็นเดียวทียังไม่เรียบร้อย จนนำมาสู่การสอบวินัยร้ายแรงคือการรับบริจาคจากบริษัทฯยา ซึ่งในความเป็นจริงกรณีนี้ก็มีการชี้แจงไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เพราะทุกการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา โรงพยาบาลไม่ได้มีการร้องขอหรือเรียกรับ แต่เป็นการบริจาคด้วยความเต็มใจของผู้มีจิตศรัทธา และการรับบริจาคก็ดำเนินการตามระเบียบ เมื่อได้มาก็นำไปจัดสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดูแลประชาชนได้ ไม่มีสิ่งใดที่ผิดต่อระเบียบ
โดยขณะนี้หนังสือรายชื่อคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนั้นมาถึงรพ.ขอนแก่นแล้ว และเห็นรายชื่อของคณะกรรมการแล้วว่ามีใครบ้าง ซึ่งมีบางท่าน ที่เคยมีปัญหาจนตนถูกย้ายออกนอกพื้นที่มาแล้วเมื่อปี 2561 แต่ก็ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่รพ.ขอนแก่นดังเดิม ซึ่งในเรื่องรายชื่อดังกล่าวนั้น จะทำหนังสือคัดค้านการตั้งกรรมการสอบวินัย ที่มีรายชื่อกรรมการรายดังกล่าว ไปยังกระทรวงภายใน 17 วัน เพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวบุคคล เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ในเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ขัดขวางการตรวจสอบของคณะกรรมการ ในขณะเดียวกันก็เชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนก็น่าจะถูกย้ายออกนอกพื้นที่อีกครั้ง ซึ่งก็ยินดีและพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบตามขั้นตอนตามกระบวนการที่โปร่งใสและยุติธรรม