เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ความสำคัญของการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก) จำนวน 3 ฉบับในสภาฯ ช่วงนี้ คือ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) วงเงิน 1 ล้านล้านบาท พระราชจะกำหนดให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงิน 5 แสนล้านบาท และพระราชกำหนดรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ วงเงิน 4 แสนล้านบาท ทั้งหมดนั้นมีความสำคัญและจำเป็นต่อการเยียวยาประชาชนและฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยผ่านกลไกการบริหารจัดการทางการเงินการคลังของรัฐบาลอย่างยิ่ง นางมัลลิกา กล่าวว่า จะเห็นได้ว่ารัฐบาลมีแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมครอบคลุมชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างละเอียด โครงการดูแลสนับสนุนเศรษฐกิจในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชน สนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระดับพื้นที่ดูแลภาคธุรกิจโดยเฉพาะระดับเล็ก SMEs และมีแผนกระจายการกู้เงินไม่ให้กระจุกตัวโดยมีการวางแผนทยอยการกู้เงินตามความต้องการใช้เงินอย่างมีวินัย นอกจากนั้นยังมีโครงการที่อนุมัติให้ใช้เงินกู้ไปแล้วคือการเยียวยาประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ และต้องยอมรับว่าสถานการณ์วิกฤติโรคระบาดนั้นเป็นกันทั่วโลก แล้วแต่ละประเทศต่างก็มีเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาตามสภาพปัญหาของประชากรและกำลังภายในประเทศที่แตกต่างกัน และสำหรับประเทศไทยเรานั้นสรรพกำลังทางภาคเศรษฐกิจ ประชาชน ทรัพยากรภายในประเทศก็ไม่เหมือนประเทศอื่น นางมัลลิกา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับความห่วงใยจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กำลังทำหน้าที่วันนี้ และความห่วงใยของฝ่ายต่างๆเกี่ยวกับหนี้สาธารณะนั้นขอให้ทุกท่าน เบาใจได้ เพราะเมื่อตรวจสอบจากความคิดเห็นของนักการเงินการคลังแล้วคาดว่าหนี้สาธารณะที่ประมาณการ ต่อ GDP ยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงที่ประเทศไทยสมัยเจอวิกฤตต้มยำกุ้งก่อนหน้านี้นั้นอันนั้นเป็นช่วงที่มีหนี้สาธารณะประเทศสูงที่สุดแล้ว และเมื่อหลังจากเศรษฐกิจดีและการมีวินัยเกิดขึ้นในเวลาต่อมาก็ทำให้ปัจจุบันนี้หนี้สาธารณะลดลง ทั้งนี้ในภาวะวิกฤติรัฐบาลย่อมนึกถึงชีวิตของประชาชน เป็นหลักซึ่งเป็นความรับผิดชอบในฐานะผู้บริหารประเทศ อบ่างไรก็ตามจากการรับมือการแก้ไขปัญหาโรคระบาดโควิด-19ของรัฐบาลจนเป็นที่ชื่นชมจากผู้นำทั่วโลกนั้นก็เชื่อมั่นได้ว่ารัฐบาลโดยการนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีรองนายกนัฐมนตรีและรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ประกอบกันมาการเลือกตั้งเป็นตัวแทนจากประชาชน เช่นกันจะสามารถรับมือเยียวยาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชนต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ