"ศบค."แฮปปี้ตัวเลขติดเชื้อโควิด-19เป็นศูนย์ รอบที่ 4ไม่มีตาย "กทม."ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมสูงสุด ขณะที่ "แซมบา" มาแรงแซง "รัสเซีย" เหยื่อป่วยโควิดพุ่งอันดับ2ของโลก "WHO" ประกาศ "อเมริกาใต้" เป็นศูนย์กลางระบาดใหม่โควิด-19ส่วนเหยื่อตายป่วยไวรัสมรณะทั่วโลกยังพุ่งต่อเนื่อง ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 24 พ.ค.63 พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า ล่าสุดวันนี้ ไทยไม่มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,040 ราย และไม่มี ผู้เสียชีวิต ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 56 ราย หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม5 ราย รวมยอดรักษาหายสะสม 2,921 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 63 ราย สำหรับสัดส่วน ผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสม แบ่งตามพื้นที่ ดังนี้ กรุงเทพฯ และนนทบุรี 1,708 ราย / ภาคเหนือ 95 ราย / ภาคกลาง 396 ราย / ภาคตะ วันออกเฉียงเหนือ 111 ราย / ภาคใต้ 730 ราย พญ.พรรณประภา กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่น่าสนใจ คือกรณีที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการแถลงข่าววัคซีนต้านโควิด-19 โดยผลการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ของจีนทางคลินิกระยะที่หนึ่งพบว่าปลอดภัย และสร้างการตอบสนองภูมิคุ้มกันในการต้านเชื้อไวรัสได้ รวมทั้งได้มีการทดลองแบบเปิดในผู้ใหญ่ ที่มีสุขภาพดีจำ นวน 108 คน ซึ่งได้รับผลเชิงบวกในช่วง 28 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้จะมีการประเมินไปอีก 6 เดือน ว่าวัคซีนดังกล่าวจะสามารถผลิตภูมิคุ้มกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ นอกจากนี้ ทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ประกาศว่าอเมริกาใต้เป็นศูนย์กลางระบาดใหม่โควิด-19 ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม ของประเทศบราซิล มีจำนวนมากกว่า 350,000 คน ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของโลก ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ไม่ได้มีการตรวจโรคอย่างกว้างขวาง ซึ่งคาดว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะมากกว่านี้ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศบราซิลยังคงลุก ลามอย่างรุนแรง จนส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 349,113 ราย มาเป็นอันดับ 2 ของโลกแซงหน้าประเทศรัสเซีย และเป็นรองประเทศสหรัฐฯ เท่านั้น ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 22,165 ราย รายงานข่าวแจ้งว่า ประเทศบราซิลเผชิญหน้ากับความยากลำบากในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากมีปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในคณะรัฐบาล จากการที่ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำบราซิล มีคำสั่งปลดนายหลุยซ์ เอนริเก แมนเดตตา ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จนส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของบราซิล รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทางองค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูชเอชโอ (ฮู) แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในบราซิล ซึ่งเป็นประเทศในทวีปลาตินอเมริกา หรืออเมริกาใต้ ที่ทางดับเบิลยูเอชโอระบุว่า ทวีปดังกล่าวเป็นศูนย์กลางแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ แห่งใหม่ของโลก ทางด้าน ประธานาธบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ออกรอบตีกอล์ฟเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.เป็นต้นมา โดย ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เดินทางไปตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟของเขา ซึ่งตั้งอยู่ชานกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างหนักในสหรัฐฯ และมีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ให้ความเอาใจใส่ต่อการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือโซเชียลดิสแทนซิง โดยยังจับมือทักทายกับบุคคลอื่นๆ รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การออกมาตีกอล์ฟครั้งนี้ ทางประธานาธิบดีทรัมป์ เป็นการแสดงออกเพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ กำลังจะกลับสู่ภาวะปกติจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยตามรายงานเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค. ตามวันเวลาในไทย ระบุว่า เชื้อไวรัสฯ ได้ลุกลามไปแล้ว 213 ประเทศ ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 5,407,378 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 344,019 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 2,247,930 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,666,828 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 98,683 ราย