เมื่อเวลา 23.10 น.วานนี้ (22 พ.ค.63) พล.ต.ท.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมคณะได้ออกตรวจเยี่ยมจุดตรวจในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ พื้นที่รับผิดชอบ สภ.เมืองราชบุรี บริเวณ แยกถนนไกรเพชร ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี โดยมี พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ,เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด อยู่ปฏิบัติหน้าที่ โดยทาง พล.ต.ท.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้กล่าวขอบคุณกับเจ้าหน้าที่ทุกที่และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งตามหลักยุทธิวิธี ใช้กิริยาวาจาด้วยความสุภาพ ปฏิบัติตนตามสุขอนามัย และได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่กำลังพลที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นเดินทางไปตรวจจุดอื่นต่อ ด้าน พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี เปิดเผยว่า หลังวันที่ 15 พ.ค.63 ทางคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ให้ปรับเวลาการห้ามออกนอกเคหะสถาน หรือเคอร์ฟิว จาก 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 23.00-04.00 น ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.63 ซึ่งทาง จ.ราชบุรี ได้มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และชุดสายตรวจทำงานร่วมกันทั่วทั้ง จ.ราชบุรี มีการตรวจค้นบุคคลในช่วงเวลา 23.00–04.00 น. ส่วนใหญ่ยังพบผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือ เคอร์ฟิว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 15-21 พ.ค.63 มีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ภ.จว.ราชบุรี รวมกว่า 150 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 23 ราย ทั้งหมดถูกส่งตัวดำเนินคดี โดยตั้งข้อกล่าวหาออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 23.00 - 04.00 น. โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ ไม่ได้รับอนุญาตจาก จพง. จนท. ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี กล่าวอีกว่า จึงขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนชาวราชบุรี การ์ดอย่าตก แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลงบ้างจนมีการปรับเวลาเคอร์ฟิว แต่ยังมีผลบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือเคอร์ฟิว อย่างเข้มงวด หากพบพี่น้องประชาชนชาวราชบุรีทำผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที จึงขอให้ประชาชนโปรดปฏิบัติตามข้อกำหนดและให้ความร่วมมือกับ จนท. เพื่อควบคุมป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้กลับมาแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดราชบุรีได้อีก