นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยถถึง กรณีที่ตำรวจกองปราบจับกุมหญิงอายุ 29 ปี หลังสงสัยว่าอาจวางยาลูก 2 คนจนเกิดอาการป่วยเพื่อขอรับบริจาค ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากลูกสาวอายุ 4 ขวบเสียชีวิต หญิงอายุ 29 ปี ผู้เป็นแม่ได้พาลูกชายอายุ 2 ขวบไปเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเดียวกัน โดยอ้างว่าเกิดจากการแพ้อาหารทะเล แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่พบอาการแพ้ตามที่กล่าวอ้าง แต่มีอาการอาเจียนรุนแรง มีแผลในปาก ลำไส้ และกระเพระาอาหาร ซึ่งเป็นคล้ายกับพี่สาวที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ จึงพบพิรุธ และทีมแพทย์ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด จนพบว่าได้รับสารเคมีที่มีฤทธิ์กรัดกร่อนบางอย่างเข้าไปจนทำให้อวัยวะภายในเสียหาย ทำให้แพทย์สงสัยพฤติกรรมของแม่ ตัดสินใจนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ ล่าสุด ตำรวจกองปราบได้จับแม่เด็กในความผิดฐานฉ้อโกงและทำร้ายร่างกายเด็กจนได้รับอันตรายสาหัสแล้วเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ตั้งข้อสงสัยว่าเด็กทั้ง 2 คนอาจไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของหญิงคนดังกล่าว จึงตรวจสอบจนพบว่า เด็กหญิงอายุ 4 ขวบไม่ใช่ลูกแท้ๆ และในใบแจ้งเกิด ชื่อพ่อและแม่เป็นบุคคลอื่นส่วนเด็กชายอายุ 2 ขวบ มีใบแจ้งเกิดเป็นชื่อของแม่ แต่ไม่ปรากฏชื่อพ่อ มีการฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ขอให้ตรวจดีเอ็นแต่แม่ไม่ยินยอม จึงต้องรออำนาจจากศาลอีกครั้งนอกจากนี้ ยังพบประวัติแม่เด็กเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 4 ครั้ง ขณะที่เด็กชายอายุ 2 ขวบ อาการปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ได้แยกตัวมาอยู่ในความดูแลในที่ปลอดภัยแล้ว โดยจะอยู่ในความคุ้มครองของ พม. เบื้องต้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน นางสุภัชชา กล่าวอีกว่า สำหรับแรงในการกระทำของหญิงดังกล่าว น่าจะมาจากเรื่องเงินอย่างเดียว ซึ่งยังไม่ยืนยันว่าหญิงรายนี้มีอาการทางจิตหรือไม่ เท่าที่มีข้อมูลกระทำคนเดียว เป็นลักษณะแสวงหาประโยชน์จากเด็กชัดเจน