กลุ่มแปรรูปสินค้าประมงของสหกรณ์ในจังหวัดพังงา ขนปลาจากเกาะยาวขึ้นเครื่องบินกองทัพอากาศไปแลกข้าวสาร และมะม่วงของสหกรณ์บ้านร่องส้าน จังหวัดพะเยา และข้าวหอมมะลิ 100 % ของสกต.ธกส.ศรีสะเกษ เผยวิกฤติโควิด 19 ทำนักท่องเที่ยวหาย ชาวบ้านบนเกาะยาวขาดรายได้ ไม่มีตลาดรับซื้ออาหารทะเลแปรรูป ต้องใช้เครือข่ายสหกรณ์ช่วยระบายสินค้า ออกนอกพื้นที่หวังเพิ่มช่องทางตลาดช่วยเกษตรกร นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ระบาด ผลผลิตและสินค้าสหกรณ์ ในหลายพื้นที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ตามปกติ จึงได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างเครือข่ายสหกรณ์ในพื้นที่ต่างๆ จับคู่ธุรกิจ เพื่อนำสินค้าที่จังหวัดนั้นหรือภาคนั้นไม่มี มาซื้อขายและแลกเปลี่ยนกัน เป็นการระบายผลผลิตออกไปยังพื้นที่ที่ผู้บริโภคมีความต้องการ และเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าให้กับสหกรณ์และเกษตรกร เพื่อจะได้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงเวลานี้ด้วย และเชื่อว่าหากสถานการณ์วิกฤติโควิดเริ่มคลี่คลายและกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว การซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินค้ากันระหว่างสหกรณ์ในจังหวัดต่างๆ ยังคงทำกันต่อเนื่อง ขณะนี้ทราบว่าสหกรณ์ในหลายจังหวัดได้เจรจาแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน อาทิ สหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินท่าวังผา จำกัด นำลิ้นจี่จากสมาชิกสหกรณ์ในอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ไปแลกปลาช่อนแดดเดียวกับสหกรณ์ประมงและการแปรรูปอ่างทอง จำกัด จ.อ่างทอง และยังมีสหกรณ์การเกษตร เพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. พังงา จำกัด ที่นำสินค้าประมงแปรรูปไปแลกข้าวสารและมะม่วงกับสหกรณ์ในจังหวัดพะเยา และแลกข้าวหอมมะลิ 100% กับสหกรณ์ที่จังหวัดศรีสะเกษด้วย ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ยังมีอีกหลายสหกรณ์ที่จะเริ่มเจรจาซื้อขาย และแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน ด้านนายธนะวิทย์ ชูทอง สหกรณ์จังหวัดพังงา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทางจังหวัดพังงาได้ประกาศปิดจังหวัด ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มได้รับผลกระทบเนื่องจากนักท่องเที่ยวหายไป ทำให้สินค้าขึ้นชื่อของเกาะยาว จังหวัดพังงา ทั้งปลาฉิ้งฉ้างแห้ง และกะปิเกาะยาวไม่มีที่จำหน่าย ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพังงาพร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดพังงา จึงได้ริเริ่มโครงการแลกเปลี่ยนสินค้ากับทางจังหวัดพะเยา นำปลาฉิ้งฉ้าง กะปิ และมังคุด ปริมาณ 3.48 ตัน มูลค่า 226,200 บาท แลกเปลี่ยนกับข้าวสารและมะม่วงของสหกรณ์การเกษตรบ้านร่องส้าน จำกัด จ.พะเยา ปริมาณ 10 ตัน มูลค่า 239,000 บาท ในวันที่ 20-21 พ.ค.63 นี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้แลกเปลี่ยนสินค้าร่วมกันระหว่างสหกรณ์ทั้งสองจังหวัด และในวันที่ 28 พ.ค.63 สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.พังงา จำกัด จะนำปลาฉิ้งฉ้างและกะปิเกาะยาว มูลค่าประมาณ 320,000 บาท ไปแลกกับข้าวหอมมะลิ 100 % ของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส.ศรีสะเกษ จำกัด ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนสินค้าในรูปแบบดังกล่าว ได้นำกลไกสหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการสินค้าและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจระหว่างสหกรณ์ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา ส่วนการขนส่งสินค้าได้รับความช่วยเหลือจากอุทยานแห่งชาติจังหวัดพังงาและองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา จัดหาเรือบรรทุกสินค้าจากอำเภอเกาะยาว มายังท่าเทียบเรือจังหวัดพังงา และทางกองทัพอากาศ ได้ให้ความอนุเคราะห์ สนับสนุนเครื่องบินพร้อมกำลังพลในการขนส่งสินค้าจากจังหวัดพังงาไปยังจังหวัดพะเยาและศรีสะเกษ ทำให้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น ทำให้การแลกเปลี่ยนสินค้าของเครือข่ายสหกรณ์ทั้งสามจังหวัดสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี