เน้นคัดกรอง-สวมหน้ากาก-ล้างมือ-เว้นระยะห่าง-ทำความสะอาดผิวสัมผัส-ลดกิจกรรมรวมกลุ่ม ขอความร่วมมือผู้ปกครองร่วมป้องกันโควิดในโรงเรียน ย้ำอย่าวิตกกังวลมาก เพราะได้เตรียมการประสานหลายหน่วยงานเตรียมพร้อมความปลอดภัย โดยประเมินความเสี่ยงปรับให้เข้ากับสถานการณ์
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางเตรียมความพร้อมการเปิดสถานศึกษา ในภาคเรียนปีการศึกษา 2563 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า จากสถิติการติดเชื้อในกลุ่มเด็กอายุ 10 – 19 ปี คิดเป็น 3.81% ซึ่งอาการในกลุ่มเด็กมักจะไม่ค่อยแสดงอาการ หรืออาการไม่รุนแรง และเป็นการรับเชื้อภายในครอบครัว แต่เมื่อมีแนวทางในการเปิดเรียนก็จำเป็นจะต้องมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน เพราะโดยธรรมชาติของเด็กจะมีความใกล้ชิดกับเพื่อนในโรงเรียน ดังนั้นจึงต้องมีการวางแนวทางให้เกิดความปลอดภัยจากโรค ดังนี้
1. โรงเรียนต้องมีการคัดกรอง วัดไข้ และอาการเสี่ยงก่อนเข้าสถานศึกษา ซึ่งจะช่วยตัดวงจรโรคได้ และขอความร่วมมือจากผู้ปกครองแจ้งประวัติเสี่ยงต่างๆ และเตรียมพร้อมก่อนจะกลับสู่โรงเรียน 2.ต้องสวมหน้ากากผ้าตลอดเวลาขณะที่อยู่ภายในโรงเรียน ไม่ถอดหน้ากากออกเมื่ออยู่ในห้องเรียน 3. ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอภายในโรงเรียน 4.จัดรูปแบบให้มีการเว้นระยะห่างภายในโรงเรียน และในห้องเรียนต้องจำกัดให้เด็กอยู่กลุ่มก้อนขนาดเล็ก หากเกิดเหตุโรคระบาดจะทำให้ติดตามและค้นหาสาเหตุได้ไว 5.ทำความสะอาดโรงเรียน หรือพื้นผิวที่มีการสัมผัส หรือทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น สนามเด็กเล็ก มีการสลับสับเปลี่ยนการใช้พื้นที่ส่วนรวม และจำกัดจำนวนการใช้แต่ละครั้ง 6. ลดความแออัดไม่จัดกิจกรรมที่มีการสัมผัสร่วมกัน เช่น การแข่งกีฬาสี ซึ่งอาจจะต้องงดไปก่อน และมีชั่วโมงเรียนรู้ได้อย่างพอเหมาะในการอยู่ร่วมกันทุกระดับ
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ปกครองจะต้องให้ความร่วมมือกับโรงเรียนอย่างเข้มข้นและใกล้ชิด โดยเฉพาะหากเด็กมีอาการป่วยขอให้เด็กหยุดเรียนรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุการป่วยว่ามีความเกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 หรือไม่ เพื่อร่วมกันป้องกันดูแลบุตรหลานวัยเรียนให้ปลอดจากโรคระบาด รวมทั้งทางโรงเรียนต้องประสานงานกับทีมกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ ซึ่งในส่วนของกรมอนามัยจะมีเจ้าหน้าที่งานอนามัยในโรงเรียนลงพื้นที่ร่วมกับในส่วนของกระทรวงศึกษาเพื่อติดตามและให้คำแนะนำในการป้องกันโรคอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น โรงเรียนแต่ละแห่งสามารถติดตามแนวทางการเปิดโรงเรียนปลอดภัยได้ในเว็บไซต์ของกรมอนามัย ไทยสต็อบโควิด (https://stopcovid.anamai.moph.go.th/ ) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียนปลอดโรคได้
“การเปิดเรียนจะต้องขอความร่วมมือผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมกับโรงเรียนในการป้องกันโรค ต้องสื่อสารให้เข้าใจว่า อย่ากังวลใจมากเพราะได้มีการเตรียมมาตรการเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ย้ำเรื่องการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และโรงเรียนต้องประเมินความเสี่ยงเพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์ ทำงานร่วมกับหน่วยงานอนามัยโรงเรียนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดเพื่อการควบคุมโรค” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว