จากปัญหาภาคการเกษตรของไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ โดย 1 ใน 10 ของประชากรเป็นคนที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และจะเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ในปี 2564 ประชากร วัยทำงานจะลดลงกว่าร้อยละ10 จากสังคมผู้สูงอายุดังกล่าวจะส่งผลทางเศรษฐกิจและสังคม คนรุ่นใหม่นิยมออกไปทำงานในเมืองใหญ่ และไม่สนใจประกอบอาชีพเกษตรกรรม เกิดปัญหาทำให้แรงงานภาคเกษตร เริ่มขาดแคลน ซึ่งภาคเกษตรเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญเพื่อการบริโภคของคนไทยทั้งประเทศ รวมถึงความจำเป็นต้องปรับตัวของสหกรณ์ภาคเกษตรเพื่อสร้างสมาชิกเกษตรกรรุ่นใหม่ การนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในการผลิตการบริหารจัดการ การพัฒนารูปแบบการผลิตของสมาชิกให้เป็นผู้ประกอบ การด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมีนโยบายที่จะสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันกลับมาทำอาชีพเกษตรกรรมมากขึ้น
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ หรือบุคคลทั่วไปกลับมาทำอาชีพเกษตรกรรมในบ้านเกิด และมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพการเกษตร โดยให้สหกรณ์การเกษตรเป็นศูนย์กลางในการสร้างอาชีพทางการเกษตรที่มั่นคง มีการบริหารจัดการครบวงจร ตั้งแต่การผลิตจนถึงการจัดหาช่องทางการจำหน่าย รวมทั้งสามารถยกระดับสหกรณ์ให้เป็นที่พึ่งของสมาชิกอย่างแท้จริง ซึ่งได้เปิดรับสมัครผ่าน Website ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562-31 มกราคม 2563 มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 7,573 คน ในส่วนของจังหวัดเชียงราย มีผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 172 ราย ในพื้นที่ 18 อำเภอ และมีสหกรณ์สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 12 แห่ง
นางสมปรารถนา ไชยวุฒิ สหกรณ์จังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้ นายชูศักดิ์ ฆะปัญญา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ และทีมงาม ร่วมกับกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 1-5 พร้อมด้วยตัวแทนสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการฯ สำรวจพื้นที่ทำการเกษตรของผู้สมัครที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร ในท้องที่อำเภอต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ การสร้างความเข้าใจ ขั้นตอนการดำเนินงานของโครงการฯ ให้เกษตรกรผู้สมัครทราบ และเพื่อประเมินความพร้อมของผู้สมัครในโครงการดังกล่าว