ไทยเราเห็นพูดกันแต่ “เฟส2” คลายมาตรการล็อกดาวน์ เปิดพื้นที่กันระลอก2 ในสถานการณ์เผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ณ เวลานี้ ทว่า สำหรับประเทศในภูมิภาคเขตซีกโลกเหนือ อย่าง ยุโรป และอเมริกาเหนือ เป็นอาทิ กำลังพูดถึงกันในเรื่อง “ระลอก 2” เช่นกัน แต่เป็นการแพร่ระบาดระลอก 2 ของเชื้อไวรัสโควิดฯ เป็นการพูดเชิงวิตกกังวล เพราะการแพร่ระบาดระลอกแรกที่ไวรัสโควิดฯ กำลังอาละวาด ณ ชั่วโมงนี้ ก็หนักหนาสาหัสสากรรจ์อย่างมากจนเกินพอแล้ว พร้อมส่งเสียงเพรียกเตือนออกมาจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข การแพทย์ และการระบาดวิทยาทั้งหลาย ว่า ถึงความเป็นไปได้ และอันตรายยิ่ง สำหรับนานาประเทศในภูมิภาคซีกโลกเหนือแห่งนั้น ที่อาจเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ระลอกที่ 2 ในช่วงฤดูหนาว ที่จะมาเยือนปลายปีนี้ ถึงต้นปีหน้า คือ ระหว่างวันที่ 22 ธ.ค. ถึงวันที่ 20 มี.ค.ของอีกปี โดย ดร.ฮันส์ คลูจ ผอ.องค์การอนามัยโลก ประจำภูมิภาคยุโรป ออกมาส่งซิกสะกิดเตือนถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง ทั้งนี้ ก็ด้วยสภาพอากาศที่หนาวดังกล่าว เป็นสภาวะแวดล้อมที่พวกเชื้อไวรัสทั้งหลาย รวมทั้งโควิดฯ ชื่นชอบ มากกว่าสภาพอากาศที่ร้อน ก็ขนาดอากาศที่ว่าร้อนๆ กันอย่างนี้ ไวรัสโควิดฯ ยังระบาดพ่นพิษกันไปทั่ว แล้วถ้าอากาศหนาว เชื้อไวรัสจะกำเริบเสิบสาน แผลงฤทธิ์ สำแดงเดช อย่างหนักขนาดไหน ผอ.ดับเบิลยูเอชโอ ประจำภูมิภาคยุโรป ระบุด้วยว่า อาจได้เห็นผู้ติดเชื้อ ทั้งป่วย และตาย มากมายกว่าการระบาดระลอกแรกอีกเป็นแน่ ไม่นับในเรื่องที่จะมีโรคระบาดอื่นๆ ที่อาละวาดตามช่วงฤดูกาล คือ หน้าหนาว ที่มีทั้งไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคหัด ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจจากการติดเชื้อไวรัสประเภทหนึ่ง ซึ่งแต่ละปี ก็ระบาดหนักในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะเด็กๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผอ.ฮู อันเป็นนิกเนมขององค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ สาขาในภูมิภาคยุโรป ยังเผยอีกว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พวกเรามีเด็กจำนวนถึง 5 แสนราย ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกสำหรับป้องกันโรคหัด ดังนั้น กลุ่มเด็กๆ พวกนี้ จึงมีความเสี่ยงสูงยิ่งที่จะติดโรคหัดในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึงปลายปีนี้ นอกเหนือจากความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดตามฤดูกาล และไวรัสโควิด-19 พร้อมกันนี้ ดร.คลูจ ได้ยกกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคไข้หวัดสเปน เมื่อช่วงปี 1918 (พ.ศ.2461) – 1920 (พ.ศ. 2463) ในระลอกที่ 2 คร่าชีวิตผู้ป่วยที่ติดเชื้อยิ่งกว่าระลอกแรก โดยประมาณการกันว่ามีจำนวนมากถึง 50 ล้านคนด้วยกัน โดยระบุว่า หวั่นเกรงว่า โควิดฯ ระลอก 2 อาจเป็นไวรัสมรณะที่คร่าชีวิตผู้ป่วยติดเชื้อมากมายอีกเช่นนั้นก็เป็นได้ ก่อนแนะนำทิ้งท้ายเพรียกเตือนว่า ฤดูหนาวปลายปีนี้ที่จะมาถึง ควรจะต้องเป็นช่วงเวลาแห่งการเตรียมความพร้อมสำหรับการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ระลอก2 มิใช่ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เฉกเช่นในปีที่ผ่านๆ มา สอดคล้องกับหมอใหญ่ชาวเมืองผู้ดี อย่าง ดร.คริส วิตตี นายแพทย์ และนักระบาดวิทยา หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ และที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ได้แสดงทรรศนะกล่าวเตือนด้วยความวิตกกังวลว่า ฤดูหนาวที่จะมาถึง และอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ระลอก2 อาจคร่าชีวิตเหยื่อป่วยเสียยิ่งกว่าการแพร่ระบาดระลอกแรกที่กำลังเป็นอยู่นี้ ดูเหมือนว่า มีพ่อเมืองบางท่าน เริ่มตระหนักต่อคำเตือนด้วยความวิตกกังวลข้างต้นกันบ้างแล้ว อย่าง “นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ” เพื่อมิให้ตัวเลขตาย-ป่วยจากเชื้อไวรัสโควิดฯ มากมายที่สุดในบรรดา 50 รัฐ ของสหรัฐฯ ในเวลานี้ ก็ส่งผลให้ทางรัฐนิวยอร์ก ของผู้ว่าฯ คัวโม เตรียมมาตรการสำหรับรองรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ที่กำลังจะมาถึงช่วงฤดูหนาวนี้ เช่น การเตรียมมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มข้นขึ้น เป็นต้น โดยทางผู้ว่าฯ คัวโม บอกว่า เตรียมรับมือตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่จะกำลังจะมาถึงในเดือน ก.ย.นี้เลยไปถึงฤดูหนาว ต้นปีหน้าเลยทีเดียว เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้กลายเป็นวิกฤติโรคร้ายอย่างที่เห็น สำหรับ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุด ผู้ป่วยติดเชื้อมีจำนวนสะสมเกือบ 5 ล้านคน และผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนราว 3.2 แสนคน ทั่วโลก