นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภท เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1/2563 ที่ผ่านมาเจอปัจจัยกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่ส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ และการลงทุนโดยรวมในประเทศและทั่วโลก จนฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ยอมรับว่าผลจากวิกฤตดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มผู้ประกอบการต้องเร่งหามาตรการเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง ALL ได้ปรับยุทธ์ศาสตร์วางแผนการตลาด โดยศึกษาพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาและประยุกต์ใช้ในการทำการตลาดในช่วงที่ผ่านมา และจากแผนดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จ โดยสะท้อนออกมาให้เห็นถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 ที่มีรายได้รวม 679 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบจากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท เป็นการแสดงถึงศักยภาพการบริหารต้นทุนด้านค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น และความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า และบนทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง พร้อมทั้งปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายรอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) แล้วกว่า 11,500 ล้านบาท ซึ่งผลงานดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตสถานการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างไรก็ตามในช่วงระยะเวลาที่เหลือภายในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทฯได้ขยายระยะเวลาแคมเปญ ALL ให้ด้วยใจยกกำลัง 2 ผ่อนเพียง 22 บาท ต่อ เดือน นาน 2 ปี ฟรีค่าใช้จ่ายส่วนกลางนาน 2 ปี และฟรีทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอน หลังจากที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุให้บริษัทฯต้องขยายระยะเวลารายการส่งเสริมการขายทางการตลาดออกไปอีกจนถึง 30 มิถุนายน 2563 จากเดิมสิ้นสุดไปเมื่อ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อรองรับกำลังซื้อที่กำลังจะกลับมาฟื้นตัวหลังการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ซึ่งคาดว่าจะมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น นอกจากนี้ความแข็งแกร่งด้านสถานะทางการเงินว่า ALL มีความแข็งแกร่งทางการเงินที่ดี บริษัทฯ ได้เตรียมเงินสด จำนวน 470 ล้านบาท พร้อมที่จะชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน ในเดือนพฤษภาคมนี้ อีกทั้งในครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทฯ ยังได้เตรียมความพร้อมทางการเงินสำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระคืนอีก1 ชุด มูลค่า 120 ล้านบาท ไว้เรียบร้อยแล้วสำหรับรองรับการไถ่ถอนตามกำหนดในครั้งต่อไป