ความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือ 7 ชีวิต คน 4 หมา 3 หลงป่าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ 12 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พ.ค.63 เวลา 11.15 น. เฮลิคอปเตอร์ ฮท.212 และ ฮท.72 ของกองทัพภาคที่ 3 ได้ยกตัวจากสนามบินชั่วคราว - ลานมันสำปะหลัง หมู่ 11 บ้านป่ามะกรูด ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ยกตัวบินขึ้นไปรับผู้หลงป่า คือ 1. นางแดง ชัยชนะ อายุ 43 ปี 2. นายวิโรจน์ ชัยชนะ อายุ 45 ปี 3. นางทองรัตน์ กัญยาประสิทธิ์ อายุ 45 ปี 4. ด.ช.ปัญญา น้อยอินทร์ อายุ 13 ปี และสุนัขอีก 3 ตัว
พลตรี ทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 นำเปิดปฏิบัติการดังกล่าว เริ่มแต่เช้าตรู่ 07.00 น. ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวที่ลานมันฯ ดังกล่าว ร่วมกับ นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง, เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, อาสาสมัครกู้ภัย และจังหวัดพิษณุโลก โดยบูรณาการสนธิกำลัง 10 ชุด ชุดละ 15 นาย ออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยการค้นหาในครั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ทั่วไปแบบ 212 และกำลังพลจาก กองพลพัฒนาที่ 3, กองพันทหารช่างที่ 302, กรมรบพิเศษที่ 4, กองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยาที่ 3 ร่วมวางแผนและค้นหาผู้สูญหายทั้งพื้นดินและภาคอากาศ พร้อมชุดกู้ภัยเพื่อเตรียมพร้อมในการปฏิบัติการใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงผู้หลงป่า 4 รายลงมายังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว โดยเตรียมพร้อมรถพยาบาลจาก โรงพยาบาลวังทอง และ โรงพยาบาลพิษณุเวชมารอรับส่งต่อ โรงพยาบาลวังทอง โดยได้มีการบินสำรวจพร้อมใช้เครื่องขยายเสียงประกาศค้นหาจนกระทั่งเมื่อบ่ายวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 จึงพบผู้สูญหาย
จากนั้นต้องรอคอยกันประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้ชุดทหารกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 4 ทำสนามจอด เฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว เป็นจุดรับผู้พลัดหลงซึ่งต้องเคลียร์พื้นที่สำหรับให้เฮลิคอปเตอร์ลงจอด โดยใช้เฮลิคอปเตอร์แบบลำเลียง 1 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ ฮท.72 บินสนับสนุนอีก 1 ลำ ท่ามกลางการลุ้นระทึกของญาติและชาวบ้านที่มารอจำนวนมาก
กระทั่งเวลา 11.00 น. เฮลิคอปเตอร์ได้ยกตัวจากลานมันฯ บินขึ้นไปยังสนามจอด เฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวกลางป่า อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ระยะทางห่างประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ลงแตะพื้น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 กระโดดลงเฮลิคอปเตอร์ นำทหารและหน่วยกู้ภัยชุดล่วงหน้าได้เตรียมพร้อมนำผู้หลงป่า 4 ราย และสุนัขทั้ง 3 ตัว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และบินกลับมาลงจอดในสนามจอด เฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ที่มีรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมในการรับตัว
ทันทีที่ผู้หลงป่าลงจากเฮลิคอปเตอร์ ญาติได้เข้ามาสวมกอดด้วยความดีใจ ขณะที่เจ้าหน้าที่พยาบาล - หน่วยกู้ชีพ ได้ตรวจเช็กอาการเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลวังทอง
ส่วนสุนัขที่หลงป่าด้วยทั้ง 3 ตัว คือ ปีเตอร์ หมี และมอม ซึ่งได้รับความช่วยเหลือออกจากป่าขึ้น เฮลิคอปเตอร์มาด้วยอย่างปลอดภัยนั้น พอลงจาก เฮลิคอปเตอร์ก็กินน้ำด้วยความกระหาย และแม้ว่าจะมีอาการตื่นตระหนกมาก แต่เมื่อเจอญาติเจ้าของมารับก็แสดงอาการดีใจ ตามกลับบ้านพักในหมู่บ้านป่ามะกรูดในเวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุที่ทั้งหมดหลงป่านั้น เบื้องต้นหนึ่งในผู้พลัดหลงได้กล่าวว่า เพราะมีฝนตกต่อเนื่อง 2 วัน 2 คืน จึงต้องหลบใต้ต้นไม้ทำให้หาทางกลับไม่ถูก ช่วงที่หลงทางอยู่ในป่าได้อาศัยกินผลไม้ทั้งลูกมะไฟ ผลไม้ป่า นอนกับดิน หาดื่มน้ำในลำห้วย มีไฟแช็ก 1 ตัว และนางแดงเป็นคนจุดไฟ เพื่อให้สัญญาณ รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับบ้าน
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวขอบคุณกองทัพภาคที่ 3 ที่ได้จัดทีมค้นหาและนำอากาศยานเข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างปลอดภัย พร้อมชื่นชมที่มีการดัดแปลงติดตั้งเครื่องขยายเสียงความถี่สูงควบคุมระยะไกลบนอากาศยานเพื่อประชาสัมพันธ์ในการค้นหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามสำหรับภารกิจค้นหาและกู้ภัยในครั้งนี้ เป็นการนำยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกผนึก ร่วมกับขีดความสามารถของกำลังพล โดยเฉพาะหน่วยรบพิเศษที่ได้มีการฝึกทักษะการค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบและสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และทันต่อเวลา ถือเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพบกที่ได้มีส่วนช่วยเหลือให้สถานการณ์นี้สำเร็จลุล่วงไปอย่างเรียบร้อย
พลตรี ทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 นำเปิดปฏิบัติการดังกล่าว เริ่มแต่เช้าตรู่ 07.00 น. ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวที่ลานมันฯ ดังกล่าว ร่วมกับ นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง, เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, อาสาสมัครกู้ภัย และจังหวัดพิษณุโลก โดยบูรณาการสนธิกำลัง 10 ชุด ชุดละ 15 นาย ออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยการค้นหาในครั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ทั่วไปแบบ 212 และกำลังพลจาก กองพลพัฒนาที่ 3, กองพันทหารช่างที่ 302, กรมรบพิเศษที่ 4, กองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยาที่ 3 ร่วมวางแผนและค้นหาผู้สูญหายทั้งพื้นดินและภาคอากาศ พร้อมชุดกู้ภัยเพื่อเตรียมพร้อมในการปฏิบัติการใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงผู้หลงป่า 4 รายลงมายังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว โดยเตรียมพร้อมรถพยาบาลจาก โรงพยาบาลวังทอง และ โรงพยาบาลพิษณุเวชมารอรับส่งต่อ โรงพยาบาลวังทอง โดยได้มีการบินสำรวจพร้อมใช้เครื่องขยายเสียงประกาศค้นหาจนกระทั่งเมื่อบ่ายวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 จึงพบผู้สูญหาย
จากนั้นต้องรอคอยกันประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้ชุดทหารกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 4 ทำสนามจอด เฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว เป็นจุดรับผู้พลัดหลงซึ่งต้องเคลียร์พื้นที่สำหรับให้เฮลิคอปเตอร์ลงจอด โดยใช้เฮลิคอปเตอร์แบบลำเลียง 1 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ ฮท.72 บินสนับสนุนอีก 1 ลำ ท่ามกลางการลุ้นระทึกของญาติและชาวบ้านที่มารอจำนวนมาก
กระทั่งเวลา 11.00 น. เฮลิคอปเตอร์ได้ยกตัวจากลานมันฯ บินขึ้นไปยังสนามจอด เฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวกลางป่า อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ระยะทางห่างประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ลงแตะพื้น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 กระโดดลงเฮลิคอปเตอร์ นำทหารและหน่วยกู้ภัยชุดล่วงหน้าได้เตรียมพร้อมนำผู้หลงป่า 4 ราย และสุนัขทั้ง 3 ตัว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และบินกลับมาลงจอดในสนามจอด เฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ที่มีรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมในการรับตัว
ทันทีที่ผู้หลงป่าลงจากเฮลิคอปเตอร์ ญาติได้เข้ามาสวมกอดด้วยความดีใจ ขณะที่เจ้าหน้าที่พยาบาล - หน่วยกู้ชีพ ได้ตรวจเช็กอาการเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลวังทอง
ส่วนสุนัขที่หลงป่าด้วยทั้ง 3 ตัว คือ ปีเตอร์ หมี และมอม ซึ่งได้รับความช่วยเหลือออกจากป่าขึ้น เฮลิคอปเตอร์มาด้วยอย่างปลอดภัยนั้น พอลงจาก เฮลิคอปเตอร์ก็กินน้ำด้วยความกระหาย และแม้ว่าจะมีอาการตื่นตระหนกมาก แต่เมื่อเจอญาติเจ้าของมารับก็แสดงอาการดีใจ ตามกลับบ้านพักในหมู่บ้านป่ามะกรูดในเวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุที่ทั้งหมดหลงป่านั้น เบื้องต้นหนึ่งในผู้พลัดหลงได้กล่าวว่า เพราะมีฝนตกต่อเนื่อง 2 วัน 2 คืน จึงต้องหลบใต้ต้นไม้ทำให้หาทางกลับไม่ถูก ช่วงที่หลงทางอยู่ในป่าได้อาศัยกินผลไม้ทั้งลูกมะไฟ ผลไม้ป่า นอนกับดิน หาดื่มน้ำในลำห้วย มีไฟแช็ก 1 ตัว และนางแดงเป็นคนจุดไฟ เพื่อให้สัญญาณ รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับบ้าน
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวขอบคุณกองทัพภาคที่ 3 ที่ได้จัดทีมค้นหาและนำอากาศยานเข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างปลอดภัย พร้อมชื่นชมที่มีการดัดแปลงติดตั้งเครื่องขยายเสียงความถี่สูงควบคุมระยะไกลบนอากาศยานเพื่อประชาสัมพันธ์ในการค้นหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามสำหรับภารกิจค้นหาและกู้ภัยในครั้งนี้ เป็นการนำยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกผนึก ร่วมกับขีดความสามารถของกำลังพล โดยเฉพาะหน่วยรบพิเศษที่ได้มีการฝึกทักษะการค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบและสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และทันต่อเวลา ถือเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพบกที่ได้มีส่วนช่วยเหลือให้สถานการณ์นี้สำเร็จลุล่วงไปอย่างเรียบร้อย