เฒ่าวัย 66 ปีแทงหนุ่มใหญ่วัย 51ปีดับ ชาวบ้านบอกสาเหตุเกิดจากการทวงเงิน200บาท แล้วท้าตีท้าต่อยกัน หนุ่มใหญ่ถือเสียมออกมาประจันหน้าก่อนถูกเฒ่าจ้วงแทง2แผลหนุ่มใหญ่ดับคาที่ เฒ่าหนี้ไปหลบซ่อนตัวในบ้านเจ้าหน้าที่ตามไปพบกินยาตาย อาการสาหัส
เมื่อเวลา 16.30น.วันที่ 18 พ.ค. ร.ต.อ.สมบัติ สมบูรณ์ดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง ได้รับแจ้งเหตุชายถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 25 หมู่ 3ตำบลคำหยาด อำเภอโพธิ์ จังหวัดอ่างทอง ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 66 หมู่ 3ตำบลคำหยาด จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลโพธิ์ทอง และเจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญู รุดไปที่เกิดเหตุ
พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อว่านายปราโมทย์ สบาย อายุ 51ปี บ้านเลขที่ 51หมู่ 2ตำบลคำหยาด สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณลำคอเป็นแผลลึกประมาณ3นิ้วมีเลือดออกมาไหลนองที่บริเวณพื้นจำนวนมาก และที่บริเวณลำตัวมีบาดแผลถูกแทงจนไส้ทะลักออกมากองที่บริเวณหน้าทอง และห่างออกไปประมาณ 3เมตรพบมีดพกขนาดความยาว 12 นิ้วตกอยู่ภายในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อว่านายประทีป พลอยแดง อายุ 66ปี บ้านเลขที่ 66 หมู่ 3ตำบลคำหยาด ได้หลบหนีเข้าไปซุกซ่อนตัวภายในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าติดตามไปภายในบ้านพบว่านอนน้ำลายฟูมปากพูดจาไม่รู้เรื่อง คาดว่าคงกินยาพิษเพื่อหลบหนีความผิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งควบคุมตัว พร้อมนำส่งโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ทำการรักษาเพื่อช่วยชีวิตในเบื้องต้นก่อนสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบถามเบื้องต้น นางสาว จิรวรรณ เฉยเฉียง อายุ18ปี ชาวบ้านในที่เกิดเหตุเห็นเหตุการณ เล่าให้ฟังว่านายปราโมทย์ผู้เสียชีวิต ได้นอนอยู่ภายในบ้านไต้ถุนบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนนายประทีป ผู้ก่อเหตุ ได้เดินถือมีดมาตะโกนท้าตีท้าต่อยอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เรื่องเงิน 200บาท ที่ผู้ก่อเหตุทวงถามและด่าทอต่างๆนาน
ส่วนด้านผู้เสียชีวิตได้ถือเสียมเดินออกมาประจันหน้ากันที่บริเวณเกิดเหตุ ก่อนถูกนายประทีป จ้วงแทงเข้าที่บริเวณลำคอและท้องจนไส้ทะลักล้มลงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนโยนมีดทิ้งแล้ววิ่งหนีขึ้นไปบนบ้านของตนเองกินยาพิษไม่ทราบชนิด
ส่วนทางด้านนายชุติวัต ช่างประดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3ตำบลคำหยาด เล่าให้ฟังว่า ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ทำงานทำการวันๆเอาแต่ดื่มสุราและมีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำ และชาวบ้านก็มาแจ้งให้ตนเองก็ห้ามศึกทุกครั้งไป แต่ครั้งนี้บานปลายและมีการแทงกันตายเกิดขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นผู้เห็นเหตุการณ์ และรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจะทำการสอบสวน นายประทีป ผู้ต้องหาหลังจากอาการปลอดภัยจากการกินยาพิษแล้ว เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในการลงมือนายปราโมทย์จนเสียชีวิต เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อว่านายปราโมทย์ สบาย อายุ 51ปี บ้านเลขที่ 51หมู่ 2ตำบลคำหยาด สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณลำคอเป็นแผลลึกประมาณ3นิ้วมีเลือดออกมาไหลนองที่บริเวณพื้นจำนวนมาก และที่บริเวณลำตัวมีบาดแผลถูกแทงจนไส้ทะลักออกมากองที่บริเวณหน้าทอง และห่างออกไปประมาณ 3เมตรพบมีดพกขนาดความยาว 12 นิ้วตกอยู่ภายในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อว่านายประทีป พลอยแดง อายุ 66ปี บ้านเลขที่ 66 หมู่ 3ตำบลคำหยาด ได้หลบหนีเข้าไปซุกซ่อนตัวภายในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าติดตามไปภายในบ้านพบว่านอนน้ำลายฟูมปากพูดจาไม่รู้เรื่อง คาดว่าคงกินยาพิษเพื่อหลบหนีความผิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งควบคุมตัว พร้อมนำส่งโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ทำการรักษาเพื่อช่วยชีวิตในเบื้องต้นก่อนสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบถามเบื้องต้น นางสาว จิรวรรณ เฉยเฉียง อายุ18ปี ชาวบ้านในที่เกิดเหตุเห็นเหตุการณ เล่าให้ฟังว่านายปราโมทย์ผู้เสียชีวิต ได้นอนอยู่ภายในบ้านไต้ถุนบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนนายประทีป ผู้ก่อเหตุ ได้เดินถือมีดมาตะโกนท้าตีท้าต่อยอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เรื่องเงิน 200บาท ที่ผู้ก่อเหตุทวงถามและด่าทอต่างๆนาน
ส่วนด้านผู้เสียชีวิตได้ถือเสียมเดินออกมาประจันหน้ากันที่บริเวณเกิดเหตุ ก่อนถูกนายประทีป จ้วงแทงเข้าที่บริเวณลำคอและท้องจนไส้ทะลักล้มลงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนโยนมีดทิ้งแล้ววิ่งหนีขึ้นไปบนบ้านของตนเองกินยาพิษไม่ทราบชนิด
ส่วนทางด้านนายชุติวัต ช่างประดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3ตำบลคำหยาด เล่าให้ฟังว่า ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ทำงานทำการวันๆเอาแต่ดื่มสุราและมีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำ และชาวบ้านก็มาแจ้งให้ตนเองก็ห้ามศึกทุกครั้งไป แต่ครั้งนี้บานปลายและมีการแทงกันตายเกิดขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นผู้เห็นเหตุการณ์ และรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจะทำการสอบสวน นายประทีป ผู้ต้องหาหลังจากอาการปลอดภัยจากการกินยาพิษแล้ว เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในการลงมือนายปราโมทย์จนเสียชีวิต เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป