สพฐ.ตรวจเยี่ยมรร.ปริมณฑลรับทดลองเปิดเรียนออนไลน์วันแรก พบมีนักเรียน 20 ไม่พร้อม ซึ่งพื้นที่ได้แก้ปัญหา ย้ำผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องซื้อทีวี-มือถือใหม่เพื่อรองรับระบบเรียนออนไลน์ หากใครไม่พร้อมให้แจ้งโรงเรียนในพื้นที่ ด้วยทุกฝ่ายพร้อมช่วยเหลือเต็มที่
เมื่อวันที่ 18 พ.ค.63 นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) พร้อมนายสันติสุข ภูมิสุทธินันท์ ที่ปรึกษาพิเศษ นายธีร์ ภวังคนันท์ ผอ.สำนักอำนวยการ รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ ผอ.สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผอ.ศูนย์ขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการจัดการศึกษา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานการเรียนการสอนด้วยการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ตามแนวทางการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ในสถานการณ์โควิด-19 และเยี่ยมบ้านนักเรียน โดยมีคณะทำงานและสื่อมวลชน ร่วมติดตามสังเกตการณ์ ณ โรงเรียนวัดบางไกรนอก (แย้มพร้อมอุปถัมภ์) จ.นนทบุรี
ทั้งนี้ เลขาธิการ กพฐ. และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ ได้แก่ เด็กหญิงพีชญา อ้นจีน ชั้นป.4 เด็กชายอชิรวิทย์ ขําภู่ ชั้นป.5 เด็กชายกันติชัย พลเยี่ยม ชั้นป.6 โดยพบปะพูดคุยและมอบถุงปันสุขให้กับนักเรียน พร้อมทั้งสอบถามความพร้อมในการเรียนทางไกลในครั้งนี้
นายอำนาจกล่าวว่า ภาพรวมการจัดการศึกษาในวันนี้ถือเป็นการทดสอบระบบ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.- 30 มิ.ย.63 เพื่อเตรียมความพร้อมหากเปิดภาคเรียนวันที่ 1 ก.ค.แล้วสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่พ้นวิกฤต ก็สามารถจัดการเรียนการสอนผ่านระบบทางไกลต่างๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการได้เตรียมความพร้อมไว้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการทดสอบระบบดังกล่าวยังไม่พร้อม 100% แต่การทดสอบระบบครั้งนี้จะนำไปสู่ความพร้อมในวันที่ 1 ก.ค.ได้
สำหรับในส่วนโรงเรียนวัดบางไกรนอก (แย้มพร้อมอุปถัมภ์) ถือเป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดกลาง มีนักเรียน185 คน ครู 19 คน โดยครูใช้การประสานงานผ่านระบบไลน์กลุ่ม ซึ่งมีนักเรียนที่ไม่มีความพร้อม 20 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กต่างด้าว 6 คน ซึ่งไม่สามารถสื่อสารทำความเข้าใจในการเรียนการสอนผ่านระบบทางไกลได้ ครูจึงใช้วิธีโทรศัพท์แจ้งข้อมูล และเด็กอีก 2 คน ไม่มีความพร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือและทีวี แต่ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้นำชุมชนให้มาเรียนผ่านทีวีดิจิทัลที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านแทน
“การเรียนผ่านระบบออนไลน์และทีวีดิจิทัล เป็นมาตรการเตรียมความพร้อมและการทดลองระบบเพื่อให้เห็นข้อบกพร่องในการใช้งาน จะได้นำมาแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งจากการรายงานผลการทดสอบระบบจากพื้นที่ต่างๆ พบปัญหาว่ามีนักเรียนบางบ้านไม่สามารถดูผ่านทีวีได้ อาจเป็นที่ระบบสัญญาณที่ต้องเปลี่ยนจากดีแอลทีวีมาเป็นระบบดิจิทัล ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ สพฐ. ยืนยันว่าไม่มีนโยบายให้ผู้ปกครองต้องซื้อโทรศัพท์มือถือหรือทีวีใหม่ หรือซื้ออุปกรณ์เสริมใดๆ มาเพิ่มเติม หากครอบครัวไหนไม่มีความพร้อมให้แจ้งมาที่โรงเรียน เพราะขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งชุมชนและโรงเรียนพร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ทั้งนี้ เลขาธิการ กพฐ. และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ ได้แก่ เด็กหญิงพีชญา อ้นจีน ชั้นป.4 เด็กชายอชิรวิทย์ ขําภู่ ชั้นป.5 เด็กชายกันติชัย พลเยี่ยม ชั้นป.6 โดยพบปะพูดคุยและมอบถุงปันสุขให้กับนักเรียน พร้อมทั้งสอบถามความพร้อมในการเรียนทางไกลในครั้งนี้
นายอำนาจกล่าวว่า ภาพรวมการจัดการศึกษาในวันนี้ถือเป็นการทดสอบระบบ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.- 30 มิ.ย.63 เพื่อเตรียมความพร้อมหากเปิดภาคเรียนวันที่ 1 ก.ค.แล้วสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่พ้นวิกฤต ก็สามารถจัดการเรียนการสอนผ่านระบบทางไกลต่างๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการได้เตรียมความพร้อมไว้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการทดสอบระบบดังกล่าวยังไม่พร้อม 100% แต่การทดสอบระบบครั้งนี้จะนำไปสู่ความพร้อมในวันที่ 1 ก.ค.ได้
สำหรับในส่วนโรงเรียนวัดบางไกรนอก (แย้มพร้อมอุปถัมภ์) ถือเป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดกลาง มีนักเรียน185 คน ครู 19 คน โดยครูใช้การประสานงานผ่านระบบไลน์กลุ่ม ซึ่งมีนักเรียนที่ไม่มีความพร้อม 20 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กต่างด้าว 6 คน ซึ่งไม่สามารถสื่อสารทำความเข้าใจในการเรียนการสอนผ่านระบบทางไกลได้ ครูจึงใช้วิธีโทรศัพท์แจ้งข้อมูล และเด็กอีก 2 คน ไม่มีความพร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือและทีวี แต่ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้นำชุมชนให้มาเรียนผ่านทีวีดิจิทัลที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านแทน
“การเรียนผ่านระบบออนไลน์และทีวีดิจิทัล เป็นมาตรการเตรียมความพร้อมและการทดลองระบบเพื่อให้เห็นข้อบกพร่องในการใช้งาน จะได้นำมาแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งจากการรายงานผลการทดสอบระบบจากพื้นที่ต่างๆ พบปัญหาว่ามีนักเรียนบางบ้านไม่สามารถดูผ่านทีวีได้ อาจเป็นที่ระบบสัญญาณที่ต้องเปลี่ยนจากดีแอลทีวีมาเป็นระบบดิจิทัล ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ สพฐ. ยืนยันว่าไม่มีนโยบายให้ผู้ปกครองต้องซื้อโทรศัพท์มือถือหรือทีวีใหม่ หรือซื้ออุปกรณ์เสริมใดๆ มาเพิ่มเติม หากครอบครัวไหนไม่มีความพร้อมให้แจ้งมาที่โรงเรียน เพราะขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งชุมชนและโรงเรียนพร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว