เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดหนองบัวลำภู นำโดย นายประสิทธิ์ มหาวงค์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดหนองบัวลำภู,นายอนุชา ภูเปี่ยมศักดิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอเมืองฯ เจ้าหน้าที่ อส. ได้ร่วมกันจับกุมนายกันตชาติ ภูริทตนานนท์ อายุ 21 ปีอยู่ที่ 6/41 ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ พร้อมด้วยกัญชาอัดแท่ง 1 ก้อนน้ำหนัก 1 กิโลกรัม และผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง สามารถจับกุมได้ที่หน้าวัดศรีวิไลบ้านโนนคูณ ต.บ้านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาอยู่ที่กระท่อมนาในพื้นที่บ้านโคกกุง หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านขาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่กระท่อมนา พบนายกันตชาติฯ หรือเฟิร์ส นั่งอยู่กับเพื่อนอีก 2 คนเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ ซึ่งนายกันตชาติฯให้การรับสารภาพว่าตนเองเพิ่งเสพกัญชามา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายกันตชาติฯ พบว่ามีข้อมูลการสั่งซื้อกัญชาจำนวน 1 แท่งประมาณ 1 กิโลกรัม ในราคา 8,000 บาทโดยสั่งซื้อผ่าน เฟจบุ๊ค ซึ่งขณะเดียวกันระหว่างจับกุมพนักงานขับรถส่งของเคอรี่ได้นำพัสดุมาส่งให้นายกันตชาติฯ พอดี หลังจากนั้นได้เซ็นรับและแกะกล่องพัสดุออกมาดู พบว่าเป็นกัญชาอัดแท่งประมาณ 1 กิโลกรัม ห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีทอง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู
โดยนายกันตชาติฯ ให้การรับสารภาพว่ากัญชาที่พบเป็นของตนเองจริง ได้สั่งซื้อกัญชามาจากนายฟานเพื่อนที่กรุงเทพฯโดยส่งผ่านเคอรี่มา 3 ครั้งแล้ว และรอดพ้นจากการจับกุมมาตลอด ซึ่งกัญชาเมื่อนำมาแล้วจะตัดแบ่งครึ่งเป็น 4 ส่วน 4 ก้อน โดยขาย 1 ก้อนในราคา 4,000 บาท ถ้าขายทั้งหมดจะได้เงินเป็นจำนวน 16,000 บาท ซึ่งได้กำไร 1 เท่าตัว ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองยอมรับว่าตนเองติดกัญชาและเสพกัญชามาหลายปีแล้วไม่สามารถที่จะเลิกได้ ซึ่งพื้นเพตนเองเป็นคนจังหวัดหนองบัวลำภู แต่พ่อกับแม่ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯหลายปีแล้วจนเองจึงย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่โน่น แต่ก็ไปๆมาๆแอบกลับมาขายกัญชาอยู่ที่หนองบัวลำภู ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจะได้สืบหาเพื่อนร่วมขบวนการเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชาโดยผิดกฎหมาย , มียาเสพติดประเภท 5 กัญชาไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จ.หนองบัวลำภู นายวรรธนะ ทองดี
สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาอยู่ที่กระท่อมนาในพื้นที่บ้านโคกกุง หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านขาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่กระท่อมนา พบนายกันตชาติฯ หรือเฟิร์ส นั่งอยู่กับเพื่อนอีก 2 คนเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ ซึ่งนายกันตชาติฯให้การรับสารภาพว่าตนเองเพิ่งเสพกัญชามา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายกันตชาติฯ พบว่ามีข้อมูลการสั่งซื้อกัญชาจำนวน 1 แท่งประมาณ 1 กิโลกรัม ในราคา 8,000 บาทโดยสั่งซื้อผ่าน เฟจบุ๊ค ซึ่งขณะเดียวกันระหว่างจับกุมพนักงานขับรถส่งของเคอรี่ได้นำพัสดุมาส่งให้นายกันตชาติฯ พอดี หลังจากนั้นได้เซ็นรับและแกะกล่องพัสดุออกมาดู พบว่าเป็นกัญชาอัดแท่งประมาณ 1 กิโลกรัม ห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีทอง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู
โดยนายกันตชาติฯ ให้การรับสารภาพว่ากัญชาที่พบเป็นของตนเองจริง ได้สั่งซื้อกัญชามาจากนายฟานเพื่อนที่กรุงเทพฯโดยส่งผ่านเคอรี่มา 3 ครั้งแล้ว และรอดพ้นจากการจับกุมมาตลอด ซึ่งกัญชาเมื่อนำมาแล้วจะตัดแบ่งครึ่งเป็น 4 ส่วน 4 ก้อน โดยขาย 1 ก้อนในราคา 4,000 บาท ถ้าขายทั้งหมดจะได้เงินเป็นจำนวน 16,000 บาท ซึ่งได้กำไร 1 เท่าตัว ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองยอมรับว่าตนเองติดกัญชาและเสพกัญชามาหลายปีแล้วไม่สามารถที่จะเลิกได้ ซึ่งพื้นเพตนเองเป็นคนจังหวัดหนองบัวลำภู แต่พ่อกับแม่ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯหลายปีแล้วจนเองจึงย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่โน่น แต่ก็ไปๆมาๆแอบกลับมาขายกัญชาอยู่ที่หนองบัวลำภู ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจะได้สืบหาเพื่อนร่วมขบวนการเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชาโดยผิดกฎหมาย , มียาเสพติดประเภท 5 กัญชาไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จ.หนองบัวลำภู นายวรรธนะ ทองดี