เมื่อวันที่ 17 พ.ค.63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวี ศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงการเปิดใช้ www.ไทยชนะ.com ว่ารัฐบาลบังคับประชาชนเกินไปหรือไม่ ว่า ไม่ได้บังคับแต่เป็นการขอความร่วมมือ เพราะดีต่อผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่จะเข้าไปตรวจสอบ เพื่อเช็คว่าใครติดเชื้อจะได้นำมาตรวจรักษา ซึ่งการลงทะเบียนไม่ได้ยุ่งยากอะไร โดยวันที่ 17 พ.ค. มีร้านค้าลงทะเบียนไปแล้ว 11,599 แห่ง เช่น กรุงเทพมหานคร 3,420 ชลบุรี 877 นนทบุรี 611 สมุทรปราการ 545 เชียงใหม่ 381 สุราษฎร์ธานี 357 นครราชสีมา 311 ขอนแก่น 248 สงขลา 219 ดังนั้น การลงทะเบียนจะดีต่อผู้ใช้บริการ ดีต่อผู้ประกอบการ และดีต่อผู้ที่จะเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งต้องขอความร่วมมือทั้ง 3 ส่วน ไม่ยุ่งยากอะไร นอกจากนี้ยังเปิดทางไลน์ด้วย การใช้ระบบดังกล่าวเรามีการคิดหลายชั้นกว่าที่จะออกมา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของไทยที่จะเข้าสู่ยุคดิจิตอลเพื่อต้องการที่จะดูแลสุขภาพของเราอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่าเว็บไซต์หมอชนะ กับไทยชนะ แตกต่างกันอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หมอชนะเป็นการกรอกรายชื่อว่าบุคคลมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อก็เป็นระบบอันหนึ่ง แต่ไทยชนะเป็นระบบใหญ่ที่จะดูแลคนในภาพรวม ไม่ได้ซ้ำซ้อนกัน เมื่อถามว่า หากการผ่อนคลายในระยะที่ 2 ดีขึ้น จะมีการพิจารณาไม่ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ แทนได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ผอ.ศบค.ได้มอบให้คณะกรรมการด้านกฎหมายไปศึกษา ถ้าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้มีการนำเสนอขึ้นมา การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ผ่านมาเป็นการรวบรวมกฎหมายต่างๆ ให้มาอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้เกิดมาตรการดูแลสังคมในสถานการณ์โรคที่รุนแรง แต่ตอนนี้ในประเทศเราควบคุมโรคได้ระดับหนึ่ง เพียงแต่ยังมีประเด็น เช่น ขณะนี้เราห้ามเครื่องบินเข้าถึง 30 มิ.ย. ถ้าจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะใช้สามารถประมวลกฎหมายตัวใดมาแทน ดังนั้น จึงต้องใช้กฎหมายหลายด้านประกอบกันเพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้าประเทศและการควบคุมเชื้อให้อยู่ในการดูแลได้ทั้งหมด ตรงนี้จึงมีความจำเป็น ถ้าจะยกเลิกแต่สถานการณ์ของโลกยังมีการติดเชื้ออยู่จำนวนมาก เราต้องดูกันอย่างลึกซึ้งและใช้เวลาพอสมควร ถ้าไทยดีขึ้น ทั่วโลกดีขึ้น ก็ไม่มีความจำเป็น แต่สถานการณ์โลกยังมีการระบาดจึงยังมีความจำเป็น ซึ่งคณะกรรมการด้านกฎหมายจะต้องไปศึกษามาว่ามีกฎหมายอะไรทดแทนได้ เพื่อสรุปความเห็นนำเสนอต่อ ผอ.ศบค.ต่อไป เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่จะขยายจำนวนการรับคนไทยจากต่างประเทศเข้ามาในแต่ละวันหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.สัปดาห์ก่อนได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ และให้ความสำคัญ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศต่างๆ ไม่ดีนัก และคนไทยมีสิทธิที่จะกลับประเทศ ดังนั้น เราต้องทำงานกันอย่างหนัก โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ระบุว่าสามารถรองรับได้ ตัวจากจากที่กำหนดไว้ 200 คนต่อวัน อาจขยับมา 300 ต่อวัน และต่อไปน่าจะขยับไป 400 ต่อวัน