สำนักงานข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. กระทรวงมหาดไทยกาตาร์ ประกาศให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกและปรับสูงสุดถึง 1.76 ล้านบาท คำสั่งของรัฐบาลกาตาร์มีขึ้น หลังจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1,733 รายในวันที่ 14 พ.ค.ทุบสถิติรายวันสูงสุดตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในประเทศ สำนักงานข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะรัฐมนตรีกำหนดให้การสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อออกจากบ้าน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดยมีข้อยกเว้นให้เฉพาะผู้ที่ขับขี่รถยนต์เพียงลำพัง มาตรการนี้จะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี และปรับสูงสุด 200,000 ริยัล หรือประมาณ 1.76 ล้านบาท สำหรับกาตาร์มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากกว่า 28,500 คน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 14 ราย