อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ แจงยิบสหกรณ์ 82 แห่ง มีสถานะมั่นคง เป็นสหกรณ์ชั้น 1 ลงทุนซื้อหุ้นกู้-หุ้นสามัญ การบินไทย มูลหนี้ 4.2หมื่นล้านบาท คิดเป็น เพียง 3.62%ของสินทรัพย์ ยัน ไม่กระทบสถานะการเงินสหกรณ์ เตรียมผ่อนปรนเกณฑ์สงสัยหนี้จะสูญ รองรับหากการบินไทย ไม่ชำระหนี้ เมื่อวันที่15 พ.ค.นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ แถลงข่าวกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ที่นำเงินไปลงทุนในบริษัท การบินไทย จำกัด ว่า มีทั้งหมด 82แห่ง นำเงินมาลงทุนในรูปสัญญาถือหุ้นกู้ 82 แห่ง วง 42,229 ล้านบาท และถือหุ้นสามัญ4แห่ง วงเงิน 273ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้ง82แห่ง คิดเป็น3.62% ของสินทรัพย์ทั้ง82แห่ง ที่มีรวมกันประมาณ1.17ล้านๆบาท ในขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ของสหกรณ์ออมทรัยพ์ทั้งประเทศ รวม 3.3ล้านๆบาท เพราะฉะนั้นยืนยันว่าสถานการณ์การบินไทย ที่อยู่ระหว่างการรอความชัดจากครม.ไม่มีผลกระทต่อการดำเนินของสหกรณ์82แห่ง แต่อย่างใด นายพิเชษฐ์ กล่าวว่ายอดเงินหุ้นกู้ 42,229ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ จะยอดครบกำหนดชำระคืนในระหว่างปี เป็นงวดชำระในระยะเวลาที่ต่างกันตั้งแต่ปี 2563-2577 โดยในปี63 ครบชำระหนี้ ในเดือนส.ค.-ก.ย.จำนวน20สหกรณ์ มูลค่า1,108ลัานบาท ในปี64 จำนวน24สหกรณ์ วงเงิน 3,224ล้านบาท ปี65 จำนวน35สหกรณ์ 4,971ล้านบาท ปี66 จำนวน30สหกรณ์ 3,349ล้านบาท ปี67 จำนวน28สหกรณ์ 3,455ล้านบาท ปี68 จำนวน32สหกรณ์ 5,020ล้านบาท ปี69จำนวน26แห่ง 2,070ล้านบาท ปี70 จำนวน27แห่ง 2,518ล้านบาท ปี71จำนวน41แห่ง มูลค่า5,608ลัานบาท ปี72 จำนวน19แห่ง 3,789ล้านบาท ปี73จำนวน10แห่ง มูลค่า956ล้านบาท ปี75จำนวน18แห่ง 1,479ล้านบาท ปี76จำนวน21แห่ง1,170ล้านบาท และปี77จำนวน23แห่ง มูลค่า3,292ล้านบาท “สถานะทางการเงินของ82แห่งล้วนเป็นสหกรณ์ชั้น1มีฐานการเงินที่ดีมาก เพราะฉะนั้นจากกรณีการบินไทย ขอยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อ82แห่ง เพราะเป็นจำนวนเงินเพียงแค่3.62%ดังนั้นขอให้สมาชิกของสหกรณ์มีความเชื่อมั่น อย่าแห่ถอนเงิน เพราะว่าจะเป็นการทำร้ายสหกรณ์เอง ที่ต้องมีภาระในการหาเงินสดมาให้สมาชิกถอน ขณะนี้พบว่ามีความผิดปกติ ประมาณ7สหกรณ์ มีการถอนประมาณ100-200ล้านบาทต่อวัน ซึ่งไม่กระทบสถานะทางการเงินกับสหกรณ์นั้นๆแต่ที่ห่วงก็คือสมาชิกไม่เข้าใจและแห่มาถอนยิ่งกลายเป็นซ้ำเติมสหกรณ์ตัวเองทั้งๆสถานะมั่นคง”อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว นายพิเชษฐ์ กล่าวว่ากรมได้มีมาตรการที่จะดูแลสหกรณ์ทั้งหมด โดยได้ทำแบบจำลองสถานการณ์ไว้รองรับและแก้ไขทุกกรณี จนถึงระดับเลวร้ายที่สุด ก็จะกระทบเพียง3.62%เท่านั้น ถือว่าน้อยมาก หากเทียบกับสินทรัพย์ที่สหกรณ์เหล่านั้นมี ซึ่งกรณีนี้ต่างกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เพราะทั้ง82แห่งไม่มีเรื่องทุจริต นอกจากนั้นกรมได้วางมาตรการผ่อนปรน คลายข้อกังวล ของสมาชิก ที่กังวลการตั้งรองหนี้สงสัยจะสูญ หากดูตารางการชำระหนี้ พบว่าปี63 มี20แห่ง 1,108ล้านบาท คาดว่าการบินไทย สามารถขำระได้ตามกำหนดแน่นอน แต่หากไม่สามารถชำระได้ รมจะออกมาตรการผ่อนคลาย ในเรื่องเกณฑ์ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งปกติจะตั้งไว้ที่100% ดังนั้นเมื่อผ่อนผันเกณฑ์นี้ ไม่ต้องตั้งเงินสำรองหนี้ จะสามารถดำเนินธุรกรรมได้ตามปกติเพราะไม่มีภาระสำรองหนี้ “ในปีนี้หากการบินไทย ไม่ชำระหนี้ จะใช้อำนาจนายทะเบียนสหกรณ์ สั่งผ่อนคลายให้สหกรณ์ไม่ต้องตั้งสำรองหนี้ สงสัยจะสูญ และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะต้องดูแลการบินไทยอย่างดีที่สุด “นายพิเชษฐ์ กล่าว ด้านพล.ท.ดร.วีระ วงศ์สรรค์ ที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย(ชสอ.) และนายกสมาคมนักบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ กล่าวว่าพอใจกับมาตรการที่กรม รองรับไว้ โดยเฉพาะมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์เงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพราะจะทำให้เงินก้อนนี้จะไม่เป็นภาระของสหกรณ์นั้นๆ จะทำให้ธุรกรรรม ดำเนินได้ตามปกติไม่กระทบสิทธิของสมาชิก ซึ่ง สชอ.ได้มีการส่งสัญญาณเรื่องนี้ แต่ห้ามไม่ได้ที่มีคนตกใจและถอนเงิน สุดท้ายกลับมาภาวะปกติ กลับมาฝากกันอีกและได้รับดอกเบี้ย เช่นกรณีที่ตกใจเรื่องสหกรณ์นำเงินไปลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็แห่ถอนกันพอหายตกใจกลับมาฝากเหมือนเดิม ยอมรับว่าเวลาช่วงตกใจ เป็นภาระที่สหกรณ์ วิ่งหาเงินมาให้ถอน ก็อาจส่งผลกระทบทางการเงินอย่างแรง จากสมาชิกด้วยกันเอง ที่แห่ถอน ทั้งนี้ชสอ.ได้นำไปลงทุน 1,919ล้านบาท หรือ1.25%ของสินทรัพย์ สชอ.ในการบินไทย ซึ่งเป็นบริษัทเกรดเอ และได้ทำความเข้าใจกับสมาชิก แล้วไม่พบการถอนเงินผิดปกติ