มหาดไทย โต้กลับ "ปลัดจอมแฉ"นอนยัน "สหพันธ์ปลัดอำเภอฯ"ตั้งเถื่อน! มอบฝ่ายกม.สอบตราสัญลักษณ์ เตือนระวังเสนอข่าวหนุนส่อผิดกฎหมาย
17 พ.ค.60 ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง(ปค.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่การให้สัมภาษณ์ของ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) เกี่ยวกับกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อบริการเด็กและการค้าประเวณีว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าว มีดังนี้ 1. ปลัดอำเภอ เป็นชื่อตำแหน่งของข้าราชการ สังกัดกรมการปกครอง ซึ่งมีจำนวนกว่า 8,000 คน ใน 76 จังหวัด 878 อำเภอทั่วประเทศ และปลัดอำเภอมีเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพที่จะเติบโตเป็นนายอำเภอ ปลัดจังหวัด ผู้บริหารกรมการปกครองในส่วนกลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด จนกระทั่งถึงอธิบดี รองปลัดกระทรวง หรือปลัดกระทรวงมหาดไทยต่อไป 2.สหพันธ์ปลัดอำเภอฯ เป็นการรวมตัวของปลัดอำเภอเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และจัดตั้งขึ้นโดยไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายรองรับแต่อย่างใด ส่วนตราสัญลักษณ์ของสหพันธ์ปลัดอำเภอฯที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเครื่องหมายของวิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ หากพบว่าเป็นความผิดและนำไปสู่ความเสื่อมเสีย ก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
"การกล่าวอ้างของ นายบุญญฤทธิ์ ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอฯ ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างๆนั้น ไม่ได้หมายความว่า ปลัดอำเภอส่วนใหญ่ได้ให้การสนับสนุนหรือเห็นพ้องกับการกระทำของ นายบุญญฤทธิ์ ทั้งการพูด หรือการกระทำ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบของกรมการปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าการกระทำ การพูดให้ข้อมูลพาดพิงบุคคล กลุ่มข้าราชการ หรือกลุ่มประชาชนต่างๆถูกต้องตามกฎหมายหรือข้อเท็จจริงที่ปรากฎอยู่จริง หรือเข้าเงื่อนไขเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายหรือไม่ ดังนั้นผู้ใดที่จะนำข้อความหรือถ้อยคำของนายบุญญฤทธิ์ ไปเผยแพร่จึงต้องระมัดระวังไม่ให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดกฏหมาย" อธิบดีกรมการปกครอง กล่าว
ร.ต.ท.อาทิตย์ กล่าวต่อว่า ทางกรมการปกครองไม่ได้ปิดกั้นการรวมตัวของข้าราชการในสังกัด ในการที่จะเสนอแนวทางการพัฒนาองค์กร เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ สวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์ของข้าราชการ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการในแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งกรมการปกครองได้มีหนังสือแจ้งทุกจังหวัด ขอให้กำชับข้าราชการฝ่ายปกครองพึงระมัดระวังในการให้ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบุคคล หน่วยงาน และต้องคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการ ภาพลักษณ์ขององค์กร และควรพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นและสาธารณชนเกิดความสับสน ดังนั้น ในกรณีของ นายบุญญฤทธิ์ หากมีข้อมูลพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี ก็ควรที่จะให้ข้อมูลดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือแจ้งให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงมหาดไทย เพื่อประกอบการพิจารณาตามขั้นตอนของกระบวนการดำเนินการทางวินัยของข้าราชการต่อไป