"มนัญญา" สั่งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ประสานสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งที่เป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ของการบินไทย 73 แห่งเร่งทำความเข้าใจกับสมาชิกและผู้ฝากเงิน ป้องกันการแห่ถอนเงิน พร้อมทั้งจัดเตรียมเงินสดเพื่อดำรงสภาพคล่องให้เพียงพอ ย้ำแก้ปัญหาโดยแปลงสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปของเงินลงทุนกลับมาเป็นเงินสด
เมื่อวันที่ 14 พ.ค.น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งให้คำแนะนำแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีความเกี่ยวโยงกับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กับ สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด และสหกรณ์ผู้ลงทุนซึ่งมีรวม 73 สหกรณ์ ทั้งนี้เมื่อวันอังคารที่ 12 พฤษภาคมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าชี้แจงเรื่องนี้ต่อที่ประชุมครม. ว่า สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัดจัดตั้งขึ้นโดยมีสมาชิกเป็นพนักงานของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มีสมาชิก 26,691 คน สินทรัพย์รวม 52,750 ล้านบาท มีเงินรับฝากจากสมาชิก 27,691 ล้านบาท ปล่อยเงินกู้แก่สมาชิก 28,393 ล้านบาทและให้สหกรณ์ออมทรัพย์ 49 สหกรณ์กู้เงิน 12,000 ล้านบาท สหกรณ์ฯ นอกจากนี้นำเงินไปลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทการบินไทย 1,348.83 ล้านบาท ปัจจุบันมีสภาพคล่องประมาณ 7,400 ล้านบาท ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เป็นสหกรณ์ผู้ลงทุนในหุ้นกู้บริษัทการบินไทยมี 73 สหกรณ์ มูลค่า 37,718.58 ล้านบาทและที่ลงทุนในหุ้นสามัญ 4 สหกรณ์ มูลค่า 273.93 ล้านบาท
ทั้งนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้แบบจำลองเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการขาดทุนบริษัทการบินไทยกรณีที่เข้าสู่กระบวนการพื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลายจะส่งผลให้หนี้สินของบริษัทถูกระงับการจ่ายคืน ซึ่งประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัดว่า สมาชิกจะขาดความเชื่อมั่นในการดำเนินงานแล้วลาออกจากสหกรณ์ สมาชิกบางส่วนถูกปลดออกจากการเป็นพนักงานบริษัทการบินไทยทำให้พ้นสภาพความเป็นสมาชิกสหกรณ์ซึ่งอาจส่งผลต่อการหักชำระหนี้เงินให้กู้ และสมาชิกไม่มีการฝากเงินเพิ่มเติมทำให้กระแสเงินสดรับของสหกรณ์ลดลง สำหรับการกู้ยืมเงินหรือจัดหาแหล่งเงินทุนอาจทำให้ยากเนื่องจากภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นที่สถาบันการเงินต่างๆ พิจารณาออกมาไม่ดี สมาชิกแห่ถอนเงินฝากจำนวนมากทำให้สหกรณ์ต้องหาเงินมาจ่ายคืนเงินฝาก ซึ่งสหกรณ์ต้องเตรียมเงินสดสำหรับไว้ดำรงสภาพคล่องสำหรับผู้มาถอนเงิน โดยได้มาจากสภาพคล่องที่มีอยู่ 7,400 ล้านบาทในขณะนี้ รวมทั้งได้จากการเรียกเงินกู้คืนจาก 49 สหกรณ์ 12,000 ล้านบาทซึ่งจะส่งผลกระทบถึงสภาพคล่องของทั้ง 49 สหกรณ์ลูกหนี้แบบเป็นลูกโซ่
"ยังมีความเป็นไปได้มากว่า จะเกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อสหกรณ์ผู้ลงทุนหรือที่เป็นเจ้าหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด ทั้ง 73 สหกรณ์ โดยสมาชิกอาจตกใจ จนเกิดปรากฎการณ์แห่ถอนเงินฝาก จนทำให้สหกรณ์ขาดสภาพคล่อง นอกจากนี้สหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นกู้การบินไทยที่มีบริษัทการบินไทยเป็นลูกหนี้อาจไม่ได้รับเมื่อถึงกำหนด ดังนั้นสหกรณ์ผู้ลงทุนอาจต้องสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญซึ่งจะส่งผลการดำเนินงานของสหกรณ์อย่างแน่นอน ส่วนสหกรณ์ 4 สหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นสามัญ อาจได้รับผลกระทบจากมูลค่าหุ้นที่ลดลง"รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งประสานสหกรณ์ทั้ง 73 แห่งทำความเข้าใจกับสมาชิกและผู้ฝากเงิน พร้อมทั้งจัดเตรียมเงินสดเพื่อดำรงสภาพคล่องให้เพียงพอ ด้วยการแปลงสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปของเงินลงทุนกลับมาเป็นเงินสด พร้อมกันนี้ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ผ่อนคลายเกณฑ์การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อไม่ให้กระทบกับฐานะของสหกรณ์ทั้ง 73 แห่งโดยเร็วที่สุด