กองปราบรวบ"สาวแสบ"เปิดเพจเฟซบุ๊กหลอกขายของออนไลน์ พบคนดังเป็นเหยื่อ "จุ๊บจิ๊บ"ภรรยา"ธรรมนัส" – "ต่าย ชุติมา" ซีซั่นเชนจ์ อดีตภรรยา "ทิม พิธา"
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป นำกำลังจับกุม น.ส.ปลิตา ขัตติยะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ม.1 ต.บึงนคร อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.231/2563 ลงวันที่ 27 เม.ย. 2563 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จจนทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย” ได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักของผู้ต้องหา
สืบเนื่องจากน.ส.ปลิตา ผู้ต้องหารายนี้ได้มีพฤติการณ์ เปิดเพจเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม โพสต์ประกาศจำหน่ายสินค้าของเล่นเด็กและอุปกรณ์เกี่ยวกับเด็กหลายชนิดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศในราคาถูกกว่าท้องตลาด จนมีผู้หลงเชื่อสั่งซื้อโอนเงินให้ แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่ยอมจัดส่งสินค้าให้ตามที่ตกลงกันไว้ โดยอ้างว่าติดปัญหาบางอย่างไม่สามารถนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาภายในประเทศได้ แต่เมื่อทวงถามขอเงินคืนก็จะพยายามบ่ายเบี่ยงก็จะทำบล็อคการติดต่อพอเรื่องเงียบก็จะไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับผู้เสียหายรายใหม่แทน ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อถูกหลอกเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคน ก็ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกด้วยเช่นกัน จนบางคนทนกับพฤติกรรมไม่ไหวต้องออกมาโพสต์เตือนระวังภัย อาทิ จุ๊บจิ๊บ- ธนพร ศรีวิราช ภรรยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ , ต่าย -ชุติมา ทีปะนาถ อดีตภรรยาของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ต้องหารายนี้ไว้ที่ บก.ปอศ. จนมีการออกหมายจับ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่าน.ส.ปลิตา นั้นหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน น.ส.ปลิตา ให้การภาคเสธ โดยรับเพียงว่าได้เปิดเพจขายสินค้าจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาจะฉ้อโกง เพียงแต่ไม่สามารถจัดหาสินค้ามาส่งให้กับผู้เสียหายได้ เนื่องจากโรงงานผลิตสินค้าที่ต่างประเทศไม่สามารถจัดส่งสินค้าเข้ามาภายในประเทศได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ต้องหารายนี้ไว้ที่ บก.ปอศ. จนมีการออกหมายจับ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่าน.ส.ปลิตา นั้นหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน น.ส.ปลิตา ให้การภาคเสธ โดยรับเพียงว่าได้เปิดเพจขายสินค้าจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาจะฉ้อโกง เพียงแต่ไม่สามารถจัดหาสินค้ามาส่งให้กับผู้เสียหายได้ เนื่องจากโรงงานผลิตสินค้าที่ต่างประเทศไม่สามารถจัดส่งสินค้าเข้ามาภายในประเทศได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป