"PROUD" เปิดกลยุทธ์ธุรกิจมุ่งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยุติธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เปิดขาย 2 โครงการหลัก Focus Phloenchit และ InterContinental Residences Hua Hin ที่พักอาศัยระดับบน คาดดันผลประกอบการปี 2563 เทิร์นอะราวด์ ประเมินหลังโควิด-19 คลี่คลายกำลังซื้อกลับ นายไพสิฐ แก่นจันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพราว เรียล เอสเตท จำกัด(มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า ภายหลังกลุ่มลิปตภัลลภ เข้าลงทุนถือหุ้นใหญ่ บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ มุ่งเน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และจะยุติธุรกิจเดิมในการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากมีอัตรากำไรค่อนข้างต่ำ โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการภายใต้การพัฒนา 2 โครงการคือ “Focus Phloenchit” คอนโดมิเนียมเจาะตลาดระดับบน มูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท และโครงการ InterContinental Residences Hua Hin ที่พักอาศัยระดับบนใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าโครงการ 3,515 ล้านบาท จำนวน 238 ยูนิต คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2 ของ ปี 2563 และจะเริ่มโอนรับรู้เป็นรายได้ปลายปี 2564 โดยเริ่มเปิดตัวโครงการเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้ว 66 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 1,200 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้จะมียอดขายราว 1,500 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทมีที่ดินในมือรองรับการพัฒนาในอนาคตอีก 1 แปลง 5 ไร่ ตั้งอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท “ในปี 2563 จะเป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ ภาพรวมผลประกอบการอาจยังไม่สะท้อนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เต็มที่ โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จึงจะเริ่มรับรู้รายได้จากการขายในโครงการ Focus เพลินจิตเข้ามา และคาดว่าจะเพียงพอที่จะผลักดันให้ผลประกอบการทั้งปีของ PROUD เทิร์นอะราวด์ได้” สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ของปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้ 6.5 ล้านบาท มีผลขาดทุน 17.7 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามปกติ ขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 การซื้อขายอาจชะงักชั่วคราวด้วยวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทาง แต่คาดว่าภายหลังรัฐบาลปลดล็อกดาวน์ คาดว่ากำลังซื้อจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากบริษัทเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่แทบไม่ได้รับผลกระทบ และกลับมองว่าสถานการณ์โควิด-19 จะเป็นตัวกระตุ้นให้คนมองหาที่พักอาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่พักตากอากาศในแหล่งท่องเที่ยว เช่น หัวหิน ซึ่งเป็นพื้นที่หลักในการพัฒนาโครงการของบริษัทในปัจจุบัน