เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม" โดยมีเนื้อหาระบุว่า " [โพล กอ.รมน. เพื่อถามความเห็นประชาชน หรือเพื่ออ้างใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป?] . จากข่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า ศบค. สั่งการให้ กอ.รมน. เตรียมจัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนว่าสมควรยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือไม่นั้น . ผมอ่านข่าวแล้วก็ได้แต่สงสัย สงสัยว่าแล้ว ศบค. ไม่มีข้อมูลที่ใช้ประกอบการตัดสินใจเลยหรือว่าสมควรเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วหรือยัง? . เราต้องระลึกอยู่เสมอว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นเป็นการบังคับใช้ “สภาวะยกเว้น” ที่ซึ่งการใช้สิทธิเสรีภาพถูกจำกัดลง การดำเนินชีวิตตามปรกติถูกรบกวนหรือสกัดขัดขวาง ความเดือดร้อนเสียหายย่อมเกิดกับผู้คนไม่มากก็น้อย ประชาชนไม่สมควรอยู่ภายใต้สภาวะเช่นนี้ตลอดไปหรือยาวนานเกินความจำเป็น เราจึงควรกลับสู่สภาวะปรกติโดยเร็วที่สุดเมื่อเหตุของสภาวะยกเว้นได้หมดไปแล้ว . ซึ่งสิ่งที่จะชี้ให้เห็นว่าเหตุของสภาวะยกเว้นยังมีอยู่หรือไม่ก็คือข้อมูล ในที่นี้หมายถึงข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัส COVID-19 ภายในประเทศ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อตามแถลงของ ศบค. ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ต่ำ โดยเฉพาะ 2 สัปดาห์หลังสุดมีเพียง 2 วันที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันถึงหลักสิบแต่ก็ไม่เกิน 20 คน ในแง่พื้นที่ล่าสุดก็มีถึง 55 จังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อหรือไม่พบมาแล้ว 28 วัน ข้อมูลเหล่านี้ล้วนชี้ว่าสถานการณ์การระบาดในประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ด้วยศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทยและความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกท่าน . และในขณะที่ ศบค. แถลงข้อมูลเหล่านี้ออกมาด้วยความภาคภูมิใจ (พร้อมกับย้ำตลอดว่าการ์ดอย่าตกๆ) ศบค. ได้เคยเก็บข้อมูลอีกด้านหนึ่งมาพิจารณาบ้างหรือไม่ว่ามีผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นจำนวนเท่าไร มีร้านค้าต้องปิดตัวกี่ร้าน? มีคนต้องตกงานกี่คน? มีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋าชาวบ้านโดยเฉลี่ยกี่บาท? มีการฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจแล้วกี่ราย? และจะต้องมีผู้ได้รับความเสียหายอีกกี่คนอีกกี่บาทหากรัฐบาลยังดึงดันที่จะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป? . มากไปกว่านั้น ผมยังสงสัยอีกว่าทำไมเจ้าภาพในการทำโพลต้องเป็น กอ.รมน.? ทำไมหน่วยงานที่รับภารกิจปฏิบัติการมวลชนเพื่อตอบสนองเป้าหมายของกองทัพจึงสมควรได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้รวบรวมความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน? . สุดท้ายแล้วโพลนี้จะเป็นเพียงสิ่งที่รัฐบาลจะใช้อ้างเพื่อคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ต่อไป ใช่หรือไม่? . สุดท้ายแล้วที่ยังต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป ไม่ใช่ด้วยเหตุผลด้านการควบคุมโรคเป็นหลัก แต่เพราะกลัวการรำลึกเหตุการณ์ทางการเมืองช่วงเดือนพฤษภาคม กลัวรอยร้าวภายในพรรคของตัวเอง กลัวกระแส Mob From Home จะเติบโตจนเกินการควบคุม ใช่หรือไม่? . ผมเห็นว่ารัฐบาลจะต้องพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้แล้ว แม้การกลับสู่สภาวะปรกติโดยสมบูรณ์จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากไม่รีบทำเสียแต่เนิ่นๆ ความเสียหายจะยิ่งหนักขึ้นไปอีก และแม้ว่าจะไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว แต่มาตรการควบคุมโรคก็ยังสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองผู้เข้าออกประเทศโดยละเอียด การพัฒนาระบบติดตามและเฝ้าระวัง หรือการตรวจเชิงรุกที่พยายามทำกันอยู่ เหล่านี้สามารถทำได้หากรัฐบาลจริงจังมากพอ . และโปรดอย่าได้เอาการสำรวจความคิดเห็นมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อคงอำนาจของตัวเองไว้ต่อไป เพราะคนเขาดูออก การถามประชาชนว่าอยากอยู่ใต้สภาวะยกเว้นต่อไปหรือไม่ก็เหมือนกับถามประชาชนว่าอยากเป็นทาสต่อไปหรือไม่ อยากอยู่ใต้อำนาจเผด็จการต่อไปหรือไม่ เราไม่พึงถามประชาชนในคำถามเหล่านี้ เพราะเราต่างรู้กันดีว่าประชาชนไม่สมควรตกอยู่ในสภาพแบบนั้น หรือหากยังอยู่ก็ต้องหลุดพ้นออกมาโดยเร็วที่สุด"